เชียงราย-ตม.เชียงราย ถือหมายจับศาลสมุทรปราการตามรวบตัวสาวเชียงแสน ข้อหาเปิดลิสซิ่งผิดกฏหมายและเก็บดอกเบี้ยสูง
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. 65 ภายใต้การกำกับการของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปร.ตร. พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผช.ผบ.ตร/รอง ผอ.ศปน.ตร. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปน.ตร. สั่งการให้ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สว.ตม.เชียงราย/ศปน.ตร.ชนป.5 ร.ต.อ.ชินภัทร บุญนัก รอง สว.ตม.เชียงราย ร.ต.อ.วินัย เชยบาน รอง สว.ตม.เชียงแสน พร้อมด้วย ขนม.ตร.สภ.เชียงแสน ร่วมกันจับกุม น.ส.กรรณฐภรรฐ ชัยโชค อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 3 ม.7 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ผู้ข้อหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 821/2565 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 65
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับคำสั่งจาก ศปน.ตร. ให้ติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และจากการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวทราบว่าบุคคลตามหมายจับดังกล่าว ซึ่งมีภูมิลำเนาใน อ.เซียงแสน ปรากฎข้อมูลจากการสืบสวนว่าบุคคลตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น พำนักอยู่ในพื้นที่จริง จึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และได้รับสั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศปน.ตร. บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการจับกุมบุคคลดังกล่าว
จนกระทั่งวันที่ 14 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 16.30 น. จนท.ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบเห็นบุคคลลักษณะตรงตามหมายจับ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 53 ม.8 ต.บ้านแชว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของบุคคลใกล้ชิดในครอบครัว จนท.ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าทำการตรวจสอบ กระทั่งไปถึงบริเวณสถานที่ที่รับแจ้ง พบบุคคลเป้าหมายยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อขอทำการตรวจสอบ จากการสอบถามบุคคลดังกล่าว พบว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงตามบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับและตำหนิรูปพรรณผู้กระทำผิดให้ผู้ถูกจับดู ผู้ถูกจับยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับหมายจับ และเป็นบุคคลตามภาพถ่ายในตำหนิรูปพรรณผู้กระทำผิด และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อนจริง ตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลหมายจับพบว่าเป็นหมายจับที่ยังมิได้มีการจับกุมตัวบุคคลตามหมายจับมาก่อน
จากเหตุและพฤติการณ์ข้างต้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่าได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” และนำตัวส่งให้ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
