(เชียงราย) ตัวแทนเกษตรกร อ.ดอยหลวง เข้าขอบคุณสภาเกษตรกรเชียงราย หลังช่วยประสานข้อพิพาทกรณีเวนคืนที่ดิน เพื่อสร้างทางรถไฟเด่นชัย-เชียงราย
วันที่ 5 ม.ค. 65 ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย เดินทางมาเข้าพบประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงรายและคณะกรรมการ เพื่อแสดงความขอบคุณที่ทางสภาเกษตรกรฯ ได้ช่วยประสานกับสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยประสานกรณีชาวบ้านจำนวน 13 ราย ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ฟ้องกรณีบุกรุกที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าสบกกฝั่งขวา” ซึ่งอยู่ในแนวที่จะต้องถูกเวนคืนที่ดินจากโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ พ.ศ.2564 จนข้อพิพาทมีความคืบหน้าโดยในวันนี้มีตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ อ.ดอยหลวง นำโดยนายจำลอง ชายสุวรรณ อายุ 55 ปี ตัวแทนเกษตรกรจากบ้านสันต้นม่วง ม.10 ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย พร้อมกับชาวบ้านอีก 4 ราย ได้เดินทางมาที่สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย เพื่อแสดงความขอบคุณกรณีที่ถูกฟ้องร้องกรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 13 ราย แต่ทางสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย ได้ช่วยประสานขอความช่วยเหลือไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ประสานกับหน่วยงานคู่พิพาท จนข้อขัดแย้งมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น วันนี้จึงเดินทางมาเพื่อขอบคุณคณะทำงานของสภาเกษตรกรทุกคน โดยมีนายธีธวัช คำเงิน ประธานสภาเกษตรกรเชียงราย พร้อมคณะกรรมการ ร่วมให้การต้อนรับนายจำลอง ชายสุวรรณ ตัวแทนเกษตรกร เผยว่า หากไม่มีสภาเกษตรกรคอยเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ลำพังแค่ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร วันนี้ทางการรถไฟได้มีการแจ้งให้ชาวบ้านที่มีข้อพิพาทกับทางอุทยานฯ ได้ไปทำสัญญาการเวนคืนที่ดิน ซึ่งชาวบ้านจะได้ชดเชยในส่วนของต้นยางพารา ในราคาประเมินเบื้องต้นประมาณต้นละ 4,000 บาท แต่ในส่วนของที่ดินเป็นของอุทยาน ชาวบ้านจึงจะไม่ได้รับชดเชยในส่วนนี้ และทางสำนักนายกยังสั่งให้ทางตำรวจยกฟ้องชาวบ้านทั้ง 13 ราย ซึ่งถือเป็นข้อเสนอที่น่าพอใจ ตนและชาวบ้านจึงอยากจะมาขอบคุณสภาเกษตรกร จ.เชียงรายกรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก สภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย ได้รับหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากเกษตรกรบ้านสันต้นม่วง ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ พ.ศ.2564 เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวตัดผ่านที่ดินทำกินของเกษตรกรในพื้นที่ (สวนยางพารา) จำนวน 13 ราย โดยเกษตรกรถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกรณีบุกรุกพื้นที่เขตปาสงวนแห่งชาติในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ พื้นที่ปลูกป่าโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ โดยเหตุพิพาทดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 และเจ้าหน้าที่ตำรวจอำเภอตอยหลวงได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ และมีหมายเรียกให้เกษตรกรเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ดอยหลวง ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2565 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าเกษตรกรเป็นผู้บุกรุกเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ใด้รับอนุญาตวันที่ 28 กันยายน 2565 สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงรายได้เข้าไปสอบข้อเท็จจริงกับเกษตรกร ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ปรากฏว่า เกษตรกรบางรายที่มีหมายเรียกนั้นมีการถือครองเอกสาร ส.ป.ก.4-01 และได้รับทราบว่าเกษตรกรได้ทำกินในพื้นที่ที่ถูกกล่าวหามาเป็นระยะเวลานานหลายปีก่อน พ.ศ.2543 พร้อมทั้งได้ยื่นหลักฐานการชำระภาษีบำรุงท้องที่มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่วันที่ 29 กันยายน 2565 สภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย ได้ประสานขอความอนุเคราะห์ความช่วยเหลือเกษตรกรผ่านที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามสำเนาหนังสือ สภจ.ชร 0104/25 ลงวันที่ 29 กันยายน 2565 และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ตามสำเนาหนังสือ สภจ.ชร 0114/25 ลงวันที่ 29 กันยายน 2565
จากนั้นทางจังหวัดเชียงราย ได้มีหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงข้อชี้แจงขอสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ตามหนังสือที่ ชร0017.1/23733 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2565 และล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 65 ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ได้มีหนังสือชี้แจงระบุว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสบกกฝั่งขวา ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 649 (พ.ศ.2519) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ให้ไว้ ณ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2517 มีเนื้อที่ประมาณ 625,725 ไร่ ต่อมาในปี พ.ศ.2537 ทางราชการได้กำหนดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่มีความเสื่อมโทรม เสื่อมสภาพ เข้าร่วมเป็นพื้นที่เพื่อการปลูกป่าฟื้นฟูสภาพป่า ตามโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ 50 เนื้อที่ประมาณ 40,000 ไร่ และได้มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ผู้สนับสนุนเงินทุน เงินงบประมาณในการปลูกพื้นฟูสภาพป่า มีเนื้อที่ประมาณ 20,890 ไร่ ปัจจุบัน ได้พ้นระยะการบำรุงป่า อายุเกิน 10 ปีไปแล้ว และอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และต่อมาทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จึงมีหนังสือมาให้ทางกรมอุทยานฯ ได้ไปสำรวจพื้นที่ตามแนวการก่อสร้างทางรถไฟ และไปพบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 13 ราย จึงรวบรวมหลังฐานส่งฟ้องดำเนินคดี โดยสภาพข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเกษตรบ้านสันตันม่วง ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ มิได้เป็นการเลือกปฏิบัติแต่อย่างได เพราะมีความจำเป็นต้องส่งมอบพื้นที่ซึ่งอยู่ในเขตการก่อสร้างให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้การรถไฟได้เข้าใช้พื้นที่ก่อสร้างทางรถไฟโดยไร้ภาระผูกพันใดๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: