(เชียงราย) ชาวบ้าน ต.ป่าหุ่ง อ.พาน คัดค้านหัวชนฝา ไม่เอาโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ
วันที่ 25 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย เริ่มออกมาแสดงออกเพื่อคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ทั้งการนำป้ายคัดค้านไปติดตามทางแยกหรือใต้ต้นไม้ หลังพบข้อมูลว่าจะมีการมาก่อสร้างในพื้นที่ ต.ป่าหุ่ง หวั่นกระทบปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพระยะยาว ในพื้นที่ 2 ตำบล 11 หมู่บ้านรอบโครงการ ลั่นถ้าไม่ยุติโครงการก็จะเดินหน้าคัดค้านไปเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปสอบถามผู้ได้รับผลกระทบ โดยพบว่าตามข้างทางได้มีชาวบ้านนำป้ายคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะมาติดไว้หลายจุด โดยชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ได้มีนายหน้าซื้อขายที่ดินได้มาติดต่อขอซื้อที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ติดต่อระหว่างบ้านท่าดีหมี ม.18 ต.เมืองพาน กับบ้านห้วยประสิทธิ์ ม.12 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน รวมกว่า 120-130 ไร่ โดยไม่ได้บอกชัดเจนว่าจะนำไปก่อสร้างหรือทำอะไร ทำให้มีข่าวลือต่างๆนานาว่าจะสร้างสนามกอล์ฟ บ้างก็ลือว่าสร้างเป็นศูนย์ฟิตเนส และบ้างก็คิดว่าจะถูกซื้อเพื่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ สร้างความสงสัยให้ชาวบ้านเรื่อยมา
นางเอมอร ตื้อแก้ว อายุ 61 ปี ชาวบ้านห้วยประสิทธิ์ ม.12 ต.ป่าหุ่ง กล่าวว่า เมื่อประมาณปี 2564 หรือเมื่อ 2 ปีก่อน ทางนายก อบต.ได้มาประชุมชาวบ้านในพื้นที่ ที่วัดห้วยประสิทธิ์ และได้นำเสนอโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ขนาดกำลังผลิต 9.9 กิโลวัตต์ ซึ่งจะมาก่อสร้างในพื้นที่ ม.12 แต่ตอนนั้นชาวบ้านก็บอกว่าไม่อยากให้โรงไฟฟ้ามาก่อสร้างในพื้นที่ เพราะขยะในชุมชนมีปริมาณไม่มาก และสามารถจัดการกันเองได้ เพราะหวั่นเกรงจะนำมาซึ่งปัญหาทั้งเรื่องกลิ่นเหม็น เชื้อโรค และกระทบกับคุณภาพชีวิต ซึ่งตอนนั้นทางนายกก็บอกว่าไม่เอาก็ไม่เป็นไร แต่ก็จะมีโครงการให้ไปดูงานกันก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยแบ่งไปดูงาน 2 ชุด แต่ตนเองตัดสินใจเด็ดขาดว่าไม่เอา และจะไม่ไปดูงานเด็ดขาด เมื่อไปดูงานกลับมา ทางผู้นำชุมชนและ อบต. ก็ไม่ได้มีการมาชี้แจงอะไรให้ชาวบ้านได้รับทราบ ทราบแค่ว่าก่อนทำโครงการจะมีการมาทำประชาคมชาวบ้านในพื้นที่เพื่อรับฟังความเห็น แต่ก็ไม่เห็นมีใครมาทำประชาคมสักที
“จนกระทั่งเมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคลิปเผยแพร่ทางโซเซียลบอกว่า ชาวบ้าน ต.ป่าหุ่ง ยกมือเป็นเอกฉันท์ให้กับ อบต.ป่าหุ่ง เพื่อจัดสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ หลังจากได้เห็นข่าวชาวบ้านต่างก็พากันตกใจว่าทำไมหมู่บ้านห้วยประสิทธิ์ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ก่อสร้างถึงไม่ได้ประชาคมกับหมู่บ้านอื่น จึงรวมตัวกันในวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ไปทวงถามกับ ผญบ. ม.12 ต.ป่าหุ่ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากผู้ใหญ่บ้าน และมีการติดต่อให้ทางกำนันและนายก อบต.มาตอบข้อสงสัย ซึ่งทางกำนันก็ให้คำตอบว่า ที่เคยมีคนมากว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ก็เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะจริง แต่เป็นเพียงขั้นตอนการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ยังจะต้องมาประชาคมหมู่บ้านในพื้นที่อยู่ ซึ่งขั้นตอนการทำประชาคมก็คาดว่าจะได้ทำในอีกประมาณ 1 ปีข้างหน้า แต่ชาวบ้านได้ข้อมูลมาว่าทางผู้เกี่ยวข้องได้ยื่นเรื่องไปถึงระดับจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านจึงคิดว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ก็เลยรวมตัวไปยื่นร้องเรียนขอความเป็นธรรมทั้งในระดับอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย อบต.ป่าหุ่ง และ ส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งถ้ายังคงจะเดินหน้าก่อสร้าง ทางชาวบ้านก็พร้อมเดินหน้าคัดค้านต่อไปเช่นกัน” นางเอมอร กล่าว
นอกจากผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพแล้ว ยังพบข้อมูลว่าพื้นที่ก่อสร้างดังกล่าว อยู่ใกล้กับสันกู่ ซึ่งมีสภาพเป็นเนินดินกลางทุ่งนา และมีซากวัดเก่าแก่ ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว ชาวบ้านหวั่นวิตกว่าหากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะจริง พื้นที่โบราณสถานดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ และพื้นที่ก่อสร้างอยู่ห่างชุมชนบางแห่งไม่ถึง 1 กม. และที่ก่อสร้างมีทางสัญจรเลียบคลองชลประทาน จึงเป็นห่วงเรื่องปัญหาการจราจร ฝุ่นควัน สารเคมี กลิ่นเหม็น น้ำเสีย รวมไปถึงวิถีชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยน ยืนยันอยากให้ยุติการก่อสร้าง
ด้านนายวุฒิกร คำมา นอภ.พาน ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ทางชาวบ้านได้ไปยื่นคัดค้านถึงระดับจังหวัดแล้ว จึงไม่อยากไปก้าวล่วงอำนาจของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และไม่อาจจะให้ข้อมูลใดๆ ได้ ตนทราบแค่เพียงว่าในขั้นตอนของการก่อสร้างในตอนนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาว่าสมควรที่จะก่อสร้างในพื้นที่หรือไม่ ยังเหลืออีกหลายขั้นตอน กว่าจะมาถึงขั้นตอนการทำประชาคมเพื่อขอความเห็นจากชาวบ้านในพื้นที่ แต่ตนคาดว่าเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายได้มีโอกาสรับฟังเหตุผลของกันและกัน ก็จะสามารถหาทางออกของปัญหาด้วยดีกันทั้ง 2 ฝ่าย
ปัญหาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ได้ถูกนำเสนอเพื่อก่อสร้างในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย ทั้ง อ.เทิง อ.เมืองฯือ.เชียงของ อ.เวียงชัย และล่าสุดคือ อ.พาน ที่กำลังเป็นข่าว ซึ่งแต่ละพื้นที่ได้มีการคัดค้านจากชาวบ้านตลอดมา ด้วยหวั่นผลกระทบหลายอย่าง ทั้งขนาดของโรงไฟฟ้าที่มีกำลังผลิตมากเกินกว่าปริมาณขยะในพื้นที่ หากปล่อยให้เกิดโรงไฟฟ้าขึ้น ก็ต้องมีการนำขยะจากต่างพื้นที่เข้ามา ก็จะสร้างปัญหาตามที่ชาวบ้านตั้งข้อกังวลไว้ แต่ปัญหาการกำจัดขยะก็ยังเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่หลายฝ่ายยังต้องขบคิดเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาในระยะยาวและต้องไม่มีผลกระทบกับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ต่อไป
