X

สุดทนกลิ่นขี้หมู! ชาวบ้านบุกเทศบาล

เชียงราย-สุดทนกลิ่นขี้หมู! ชาวบ้านบุกเทศบาล ขอคำชี้แจงกระบวนการต่อใบอนุญาต

วันที่ 30 มิ.ย. 66 ที่เทศบาลตำบลงิ้ว ต.งิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย ได้มีชาวบ้านจากบ้านสันเชียงใหม่ ม.5 บ้านใหม่สวนดอก ม.25 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สท. และคณะครูนักเรียนจากโรงเรียนสักสันเชียงใหม่ รวมประมาณ 120 คน ได้มารวมกันที่บริเวณหอประชุมเทศบาลตำบลงิ้ว เพื่อขอให้ทางเทศบาลได้ชี้แจงกระบวนการต่อใบอนุญาตฟาร์มหมู และให้ทางเทศบาลกำหนดมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน หลังจากได้ทนอยู่กับปัญหากลิ่นขี้หมูจากฟาร์มหมูในพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบรบกวนชาวบ้านมานับ 10 ปี แม้จะมีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่างตัวแทนชาวบ้าน เทศบาล และเจ้าของฟาร์มหมู มาตั้งแต่ปี 2562 โดยในบันทึกข้อตกลงดังกล่าวจะระบุไว้ว่า ในการต่อใบอนุญาตฟาร์มหมูจะต้องผ่านการทำประชาคมจากชาวบ้านในพื้นที่ก่อนทุกครั้ง แต่ล่าสุดยังพบว่าฟาร์มหมูยังสามารถดำเนินการต่อใบอนุญาตได้โดยไม่มีการมาทำประชาคมขอความเห็นจากชาวบ้านแต่อย่างได จนได้มีการไปร้องเรียนมาแล้วหลายหน่วยงาน แต่ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนให้กับชาวบ้านชาวบ้านที่มาชุมนุมได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ฟาร์มหมูในพื้นที่ ต.งิ้ว มีทั้งหมดประมาณ 3-4 ราย แต่กรณีที่เป็นปัญหาที่ชาวบ้านต้องมาร้องเรียนกันมาตลอด เป็นของผู้ประกอบการ 2 ราย (3 โรงเพาะเลี้ยง) ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ระหว่างบ้านสันเชียงใหม่กับบ้านใหม่สวนดอก มีปัญหารบกวนจากกลิ่นขี้หมู ซึ่งก่อเกิดปัญหาหลายอย่างตามมาด้วย เช่น ข้อกังวลในเรื่องการระบายน้ำจากฟาร์มหมูลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติอาจทำให้น้ำเสีย ปัญหาแมลงวันรบกวน ปัญหากลิ่นขี้หมูที่มีส่วนประกอบของก๊าซมีเทน ซึ่งหากสูดดมเป็นระยะเวลานานๆก็อาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ระบบหายใจ และดวงตาอาจมีการระคายเคืองได้ ชาวบ้านมีการร้องเรียนมาตั้งแต่สมัยนายกคนเก่าจนมาถึงนายกคนปัจจุบัน กินระยะเวลานานกว่า 10 ปี แต่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ต้องก้มหน้าทนรับกับปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด ในวันนี้จึงต้องมาชุมนุมกัน เพื่อขอคำตอบและผู้รับชอบในการต่อใบอนุญาตให้กับฟาร์มหมูด้านฝ่ายผู้บริหารเทศบาลตำบลงิ้ว นำโดยนายจ้อย ศรีใจวัง นายกเทศมนตรีตำบลงิ้ว และพันจ่าอากาศเอกอุทัย สมนวล ปลัดเทศบาล พร้อมด้วยรองนายก นิติกร นักวิชาการสาธารณสุข มาร่วมในการให้คำชี้แจงกับชาวบ้าน โดยทางเทศบาลได้แสดงความเห็นใจกับชาวบ้านในปัญหาที่พบเจอ และได้พยายามแก้ปัญหามาโดยตลอด รวมถึงคัดค้านการต่อใบอนุญาตไปแล้ว แต่ทางผู้ประกอบการได้ไปร้องกับกระทรวงสาธารณสุขว่าคำสั่งของเทศบาลไม่ชอบธรรม และให้ทางสาธารณสุขมีคำสั่งให้ทางเทศบาลต่อใบอนุญาตให้ จึงต้องดำเนินการตามคำสั่งที่ออกมา แต่ปัญหาความเดือดร้อนที่ทางชาวบ้านได้มาร้องเรียนนี้ รวมไปถึงข้อชี้แนะที่ตัวแทนชาวบ้านได้นำเสนอ ทางเทศบาลจะเก็บไว้ทำเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการต่อใบอนุญาตในปีต่อๆไป และจากกรเจรจาพูดคุยกับผู้ประกอบการ ทางนั้นได้ขอเวลาเพื่อเลี้ยงหมูที่ยังค้างอยู่ในฟาร์ม ซึ่งจะครบกำหนดออกขายในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า ส่วนปัญหาการต่อในอนุญาตตั้งแต่ปี 2564 ที่ชาวบ้านตั้งข้อสงสัย ว่าทำไมถึงไม่ผ่านการทำประชาคมจากชาวบ้าน ทั้งที่มีการระบุใน MOU ว่าต้องทำทุกครั้งที่ต่อสัญญา ทางเทศบาลชี้แจงว่า ที่ผ่านมาระเบียบการต่อใบอนุญาตสถานประกอบการที่ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน ก็จะไม่ได้ยึดเอาข้องตกลง MOU มาประกอบการพิจารณาต่อใบอนุญาตอยู่แล้ว และผู้เกี่ยวข้องในการต่อใบอนุญาตก็ไม่ทราบเนื้อหาของข้อตกลงดังกล่าวมาก่อน ซึ่งประเด็นนี้ชาวบ้านแจ้งว่า ในเมื่อมีการทำบันทึกข้อตกลงกันไว้แล้วก็ควรนำเอาสาระของ MOU มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย แต่ทางเทศบาลไม่ได้ใช้บันทึกข้อตกลงมาใช้ก็ถือว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องบกพร่องต่อหน้าที่ และชาวบ้านเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเทศบาลซึ่งมาร่วมชี้แจงก็ได้แสดงสปิริตโดยการยอมรับความผิดพลาด และจะขอพิจารณาย้ายตัวเองไปทำงานในหน่วยงานอื่นทั้งน้ำตานองหน้าด้านนายบันดิษฐ์ ปุระตา อาชีพทนายความ และเป็นแกนนำชาวบ้าน เผยว่า จากการพูดคุยกันในวันนี้ ได้มีการดำเนินการของเทศบาลใน 3 เรื่อง เรื่องแรกคือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการต่อใบอนุญาตก็ได้แสดงความรับผิดชอบโดยการจะขอย้ายตัวเอง เรื่องที่ 2 ในส่วนของนายกเทศมนตรีก็ได้รับปากที่จะใช้ความเข้มงวดในการต่อใบอนุญาตกิจการที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในครั้งต่อๆ ไป และในเครื่องมาตรการเร่งด่วน ที่ชาวบ้านอยากให้แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นขี้หมู ในช่วงบ่ายวันนี้ทางเทศบาลได้ประสานทางอำเภอ ปศุสัตว์ สาธารณสุข ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ร่วมลงพื้นที่ฟาร์มหมู เพื่อไปตรวจสอบและดูผลกระทบ จากนั้นจะสั่งการให้ฟาร์มหมูเพิ่มช่วงเวลาการทำความสะอาดขี้หมู และงดการใช้พัดลมดูดอากาศออกไปนอกฟาร์มหมู อันเป็นต้นเหตุการเกิดกลิ่น โดยจะให้เวลาแก้ไขภายใน 7 วัน ซึ่งทางเทศบาลจะมีการเข้าไปตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากฟาร์มหมูไม่มีการแก้ไขปัญหาตามที่ทางเทศบาลระบุไว้ ก็อาจจะส่งผลให้ทางเทศบาลบังคับระงับและเพิกถอนใบอนุญาตการเลี้ยงหมูในอนาคตซึ่งการแก้ไขปัญหาที่ออกมาทางชาวบ้านค่อนข้างจะรู้สึกพอใจ และแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ยังคงจะคอยติดตามดูความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ของทั้งผู้ประกอบการและเทศบาลว่าจะมีความยั่งยืนแค่ไหน หากเป็นการแก้ไขปัญหาแค่ชั่วคราว ก็จะเคลื่อนไหวร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สราวุธ คำฟูบุตร

สราวุธ คำฟูบุตร

เสนอข่าวทุกมิติ เจาะลึกทุกประเด็น ID LINE : yai8881