เชียงราย-ญาติกังขา! หนุ่มแม่สรวยไปเสียชีวิตปริศนาที่ฮอด เชื่อเป็นเหตุฆาตกรรม วอนขอความเป็นธรรม
วันที่ 29 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีหนุ่มเชียงรายที่ไปเสียชีวิตที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยทางพนักงานสอบสวน สภ.ฮอด จ.เชียงใหม่ รับเป็นคดีด้านการจราจร แต่ทางญาติตั้งข้อกังขาว่า สภาพศพไม่เหมือนคนที่ถูกรถชน และอาจจะเป็นการฆาตกรรม จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีและหัวหน้าพนักงานสอบสวนทำคดีด้วยความรอบคอบ อย่าเพิ่งสรุปคดี เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 125 บ้านหัวทุ่ง ม.2 ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีศพของนายกัมพล แก้วชัย อายุ 34 ปี ซึ่งได้มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.กานดา แก้วชัย อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 153 ม.2 ต.ฮอด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 22.30 น.ข ของวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ต่อว่าแฟนที่กำลังจะนำเอาบุหรี่มาสูบ เพราะลูกสาวคนเล็กเป็นภูมิแพ้ แฟนก็เลยหยิบเอากระเป๋าสะพายเดินออกไปนอกบ้าน พอผ่านไปสักประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากลูกๆ นอนหลับแล้ว ตนรู้สึกเป็นห่วงก็เลยขับรถออกไปตามหา โดยไปสอบถามที่ร้านค้าข้างทางเขาก็บอกว่าเห็นสามีของตนเดินผ่านร้านไป ตนจึงขับรถไปตามถนนจนไปพบร่างสามีนอนคว่ำหน้าอยู่บนถนนและมีเลือดไหลนองพื้น ห่างจากบ้านประมาณ 3 กม. ตนก็เลยร้องเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและลงบันทึกการสอบสวนว่าเป็นอุบัติเหตุทางการจราจร ซึ่งทางญาติๆ เห็นแย้งว่าไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุ เพราะในที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการชน น่าจะเป็นการทำร้ายร่างกายแล้วนำศพมาอำพรางมากกว่า แต่ทางตำรวจก็ยังสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุอยู่ดีพ.ต.ท.จักรี วงค์คำ อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ และเป็นญาติของผู้เสียชีวิต เผยว่า ผู้ตายเป็นหลานชายของตนเอง เป็นลูกคนกลางของครอบครัว หลังจากไปแต่งงานมีครอบครัวก็ย้ายไปทำงานอยู่กับภรรยาที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ได้ประมาณ 2 ปีมาแล้ว หลังหลานชายประสบอุบัติเหตุตนไม่ได้ไปรับศพที่ จ.เชียงใหม่ มีเพียงพ่อและน้องสาวของผู้เสียชีวิตเดินทางไป พึ่งได้มาเห็นรูปถ่ายในที่เกิดเหตุที่ทางพนักงานสอบสวนส่งมาให้ ด้วยความที่ตนได้รับราชการตำรวจ เป็นพนักงานสอบสวนมาเกือบ 30 ปี จากที่เห็นบาดแผลและร่องรอยในที่เกิดเหตุ พบความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการเบรคของรถ ไม่มีร่องรอยการชน ไม่มีชิ้นส่วนรถคู่กรณี สภาพศพไม่มีการหักของกระดูก มีเพียงบาดแผลที่ตนคาดว่าเกิดจากของมีคม เพราะรอยแผลเรียบ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นการทำร้ายในลักษณะไหน และขวดเหล้าที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นำไปตรวจสอบ“ตนมีข้อสงสัยว่าทำไมทางพนักงานสอบสวนถึงรีบด่วนสรุปว่าเป็นคดีทางการจราจร ทำไมไม่ส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.มหาราชเชียงใหม่ ตนอยากหาความชัดเจนเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับหลานชาย” พ.ต.ท.จักรี กล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: