เชียงราย-ชาวเมียนมาแห่เที่ยววัดพระธาตุดอยเวา และวัด-สถานที่ท่องเที่ยว ในพื้นที่ อ.แม่สาย เนื่องในวันเข้าพรรษา
วันที่ 1 ส.ค.2566 ตลอดทั้งวันมีชาวเมียนมาร์จำนวนมาก แห่เดินขึ้นบันไดพญานาค วัดดอยเวา ต.เวียงพานคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชาวเมียนมาส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 90 เปอร์เซ็น วันพระใหญ่ หรือวันเข้าพรรษาชาวเมียนมา เรียกว่า วาโซลาบิ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 2 ส.ค. ซึ่งจะช้ากว่าไทยไป 1 วัน แต่วันนี้ชาวเมียนมา จะเป็นวันทำบุญ ทำให้ร้านค้า และแรงงานหยุดงาน หลังจากไปทำบุญที่วัดทางฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมาเสร็จ ได้พากันเดินทางข้ามด่านพรมแดนแม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และเดินไปเที่ยวตลาดดอยเวา-ตลาดสายลมจอย แล้วพากันเดินขึ้นบันไดพญานาค ขึ้นไปชมวิวทิวทัศ บนพระธาตุดอยเวา ชมวิวไปทางฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมาร์ ซึ่งจะมองเห็นฝั่งท่าขี้เหล็ก 360 องศา มองกลับไปดูความเจริญของบ้านเมืองตนเอง
นายสายคำเป็นหนึ่งชาวไทยใหญ่ ที่อยู่ในเมืองท่าขี้เหล็ก และได้ข้ามมาทำงานยังฝั่งไทย เผยว่า ในวันพรุ่งนี้จะตรงกับวันเข้าพรรษา หรือวันพระใหญ่ของชาวเมียนมา แต่วันนี้เป็นวันทำบุญ ชาวเมียนมาที่อยู่ในเมืองท่าขี้เหล็ก จะพากันข้ามมาทางสะพานแห่งที่ 1 แม่สาย ถือได้ว่าข้ามมาง่าย แล้วเดินพาครอบครัวมาเที่ยวบนพระธาตุดอยเวา ถือว่าใกล้ด่านพรมแดนมากที่สุด เดินทางได้สะดวกกลับง่าย ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรมาก
ซึ่งความแตกต่างของพระธาตุดอยเวา จะมีความแตกต่างจากวัดทาง เมืองท่าขี้เหล็ก เพราะจะมีสีสัน งานศิลปะร่วมสมัย อีกทั้งบนพระธาตุดอยเวา ยังมีการตกแต่งงานศิลปะเป็นสีม่วง สวยสดงดงาม ทำให้ชาวเมียนมากราบไหว้ขอพร และถ่ายรูปเซลฟี่กับ ประติมากรรมบบนวัด จึงมีชาวเมียนมา แห่ข้ามมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก สวมแต่งกาย ที่เป็นเอกลักษณะของชาวเมียนมา
