เชียงราย-เตือนภัย! มิจฉาชีพทำทีโทรจองโต๊ะและสั่งอาหาร ก่อนจะส่งสลิปปลอมและหาเรื่องยกเลิกออเดอร์เพื่อขอเงินคืน เชียงรายเจอแล้วหลายร้าน!
วันที่ 28 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เชียงรายมีมิจฉาชีพทำทีโทรไปจองโต๊ะและสั่งอาหาร ก่อนส่งสลิปโอนเงิน (ปลอม) เป็นค่าอาหารล่วงหน้า และต่อมาจะทำทีเป็นสั่งไวน์หรือของราคาแพงที่ร้านไม่มี ก่อนจะหาเรื่องยกเลิกออเดอร์และให้โอนเงินคืน ล่าสุดมีร้านที่เจอเหตุการณ์แบบเดียวกันหลายร้าน แต่ยังไม่มีร้านไหนตกเป็นเหยื่อโอนเงินไปให้ ก็เลยอยากจะเตือนภัยเพราะหวั่นร้านที่รู้ไม่เท่าทันโอนเงินไปให้มิจฉาชีพ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านฮักม่วน เลขที่ 358/10 ม.3 ถ.บายพาสตะวันออก ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ซึ่งมี น.ส.เบญญาภา วราพิภัทรกุล อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน เล่าใหัฟังว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคนโทรเข้ามาที่ร้านเพื่อสอบถามรายละเอียด โดยอ้างว่าเป็นพนักงานของร้านขายส่งสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่เชียงราย และแจ้งว่าทางบริษัทต้องการจะมาสั่งจองโต๊ะเพื่อกินเลี้ยง ก่อนจะให้ส่งรูปร้านและรายละเอียดเมนูอาหารต่างๆ ไปให้ทางไลน์เพื่อจะเลือกสั่ง จากนั้นคนที่ติดต่อเข้ามาเขาก็เลือกอาหาร 14 เมนูๆ ละ 4 ที่ รวมเป็นเงินประมาณ 10,000 กว่าบาท โดยทีแรกเขาบอกว่าต้องการจะจัดเลี้ยงในวันที่ 12 ส.ค. แต่วันดังกล่าวทางร้านมีลูกค้าจึงขอเลื่อนเป็นวันที่ 14 ส.ค.
น.ส.เบญญาภา กล่าวเพิ่มเติมว่า พอถึงตามวันที่นัดหมายเขาก็ทำทีส่งสลิปโอนเงินค่าอาหารมาให้ทางในไลน์ แต่ตนรู้สึกผิดสังเกตุหลายอย่างในสลิปที่เขาส่งมา เพราะไม่มีเงินเข้ามาในบัญชีจริง และในใบสลิปก็โอนมาในนามบริษัท โดยระบุว่าต้องรอระบบโอนเงินใช้เวลาประมาณ 6 ชม. ตนจึงรู้สึกผิดสังเกตุ คิดว่าต้องเป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน ต่อมาช่วงเย็นเขาก็ติดต่อมาอีก โดยมาสอบถามว่ามีไวน์ที่เขาต้องการหรือเปล่า เพราะโดนเจ้านายสั่งระบุมาว่าต้องการไวน์ตามที่ส่งรูปให้ ซึ่งทางร้านเช็คแล้วไวน์ที่สั่งมาราคาขวดละ 9,000 บาท 2 ขวด และ 4,000 กว่าบาท 2 ขวด เป็นเงินประมาณ 29,000 บาท ตนจึงลองให้ลูกน้องหาภาพไวน์ส่งไปให้เขาดูและบอกว่าเตรียมของไว้แล้ว ให้โอนเงินค่าไวน์มาให้ก่อน 50% ทางนั้นก็อ้างว่าต้องรอฝ่ายบัญชีมาจัดการให้ ก่อนจะเงียบหายไปไม่ติดต่อมาอีกเลย ตนได้ลองโทรไปสอบถามคนที่ติดต่อเข้ามาแต่ปรากฏว่าโทรติดต่อกลับไปไม่ได้ จึงลองไปค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทที่เขาแอบอ้าง ก็พบว่าบริษัทมีตัวตนจริง แต่บริษัทปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เอาชื่อบริษัทไปแอบอ้าง และเขาก็บอกอีกว่าก่อนหน้านี้ก็มีร้านอาหารในพื้นที่ จ.เชียงราย โทรไปแจ้งในกรณีเดียวกันกับของตน แต่เนื่องจากยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นจึงยังไม่มีการดำเนินการไดๆ
“ทางตนจึงรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งไปให้ทางบริษัทนำไปดำเนินการฟ้องร้องแจ้งความ และนำเรื่องราวที่พบเจอไปโพสต์แจ้งในกลุ่มของผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อจะได้เพิ่มความระมัดระวังตัว และไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยหลังจากคนแจ้งเตือนภัยไปในกลุ่มผู้ประกอบการ ก็ได้มีการแจ้งเบาะแสเข้ามาว่าบุคคลดังกล่าวยังได้ไปติดต่อร้านค้าอื่นในลักษณะเดียวกันอีก แต่ก็มีคนรู้ทันยังไม่ตกเป็นเหยื่อ แต่ก็มีคนบอกว่าในต่างจังหวัดที่มีผู้สูงอายุดูแลร้าน และรู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมมิจฉาชีพก็มีคนตกเป็นเหยื่อบ้างเหมือนกัน” เจ้าของร้านฮักม่วน กล่าว
ด้านนางนฤมล บัวติ๊บ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านหลู้ลำ ตั้งอยู่ที่ชุมชนริมน้ำกก ม.20 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย เล่าว่า กรณีของตนมีคนติดต่อเข้ามาที่ร้านเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อขอจองโต๊ะและสั่งอาหารสำหรับคนปรับมาณ 23-24 คน โดยจะโอนเงินค่าอาหารมาให้ก่อน 13,000 บาท ตนก็เริ่มสงสัยละว่าทำไมถึงโอนมาเยอะ ทั้งที่ราคาอาหารดูแล้วไม่น่าจะเกิน 5,000 บาท และต่อมาเขาก็ได้ส่งเป็นเอกสารการโอนเงินเป็นไฟล์ PDF มาให้ ทางลูกน้องก็ได้ส่งต่อมาให้ตนและสอบถามตนว่ามีเงินเข้าบัญชีหรือเปล่า ตนดูแล้วไม่มีเงินเข้ามาในบัญชี เมื่อดูจากเอกสารที่เขาส่งมาก็พบว่าระบุว่าเงินจะเข้าบัญชีภายใน 4 ชั่วโมง ก็เลยรู้ตัวว่าเป็นมิจฉาชีพ เพราะตนเคยเห็นข่าวในลักษณะนี้มาก่อน โดยจะมีพฤติการณ์เข้ามาติดต่อจองอาหารและส่งสลิปโอนเงินปลอมเป็นค่าสินค้าล่วงหน้า ก่อนจะหาเรื่องยกเลิกออเดอร์และขอเงินที่โอนมาให้ทางร้านคืน เคยมีร้านที่จังหวัดอื่นตกเป็นเหยื่อด้วย ตนจึงบอกให้ลูกน้องลองชวนเขาพูดคุยว่าต้องการอะไรอีก
“หลังจากนั้นบุคคลดังกล่าวก็ได้ติดต่อเข้ามาอีก โดยขอให้ทางร้านจัดหาไวน์ตามยี่ห้อและปีที่เขาต้องการให้ ตนจึงให้ลูกน้องบอกเขาไปว่าทางร้านไม่สามารถดำเนินการให้ได้ และไม่มีเงินไปสำรองค่าไวน์ให้ลูกค้าก่อนได้ ให้ลูกค้าจัดหามาเอง จากนั้นเขาก็เงียบไปเลย ก็เลยนำเรื่องราวไปแชร์ และอยากฝากเตือนร้านค้าต่างๆ ให้เพิ่มความระมัดระวัง เพราะตอนนี้มีมิจฉาชีพเยอะ และมาหลากหลายรูปแบบ” เจ้าของร้านหลู้ลำ กล่าว
