เชียงราย-เมื่อคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกทาง ที่จะอยู่รอดได้ เหมือนกับ 2 หนุ่มพิการ ที่มีความแตกต่างกันทางร่างกาย เมื่อสามารถจับคู่ลงตัว ช่วยกันหาเลี้ยงชีพเอาตัวรอดได้ ในสภาพวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และยังมีอีกหลายคนที่มีร่างกายครบ 32 แต่ไม่สามารถหาเลี้ยงปากท้องได้
วันที่ 7 ก.ย.2566 มีรายงานว่า มีชายร่างพิการทั้งตัวไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุจากการดื่มสุรา ทำให้พิการไปครึ่งตัว แต่มีสองดีปกติทั่วไป และก็มีชายอีกคนหนึ่ง พิการทางสมอง คิดด้วยตนเองไม่ได้ แต่แขนขาสามารถใช้งานได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ต่อมาทราบชื่อนายสัมพันธ์ บัวสุวรรณ อายุ 45 ปี (พิการครึ่งตัว) นายทศพร เกตุจันทร์ (พิการทางสมอง) อายุ 39 ปี ทั้งคู่ อาศัยอยู่บ้านนาปง ซอย 10 หมู่ 8 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวมีด้วยกันทั้ง 3 คน มีนางหลั่น บัวสุวรรณ (แม่นายสัมพันธ์) อายุ 73 ปี ซึ่งพิการขานายสัมพันธ์ เผยว่า ก่อนหน้าได้รับอุบัติเหตุจากการดื่มสุรา ทำให้จักรยานยนต์ล้มกระดูกคอหัก ทำให้พิการครึ่งตัว และได้ไปรักษาตัวโรงพยาบาล กระทั่งถูกส่งไปยัง สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้ระยะหนึ่ง ก็ได้พบกับนายทศพล และได้ชักชวนกันกลับมาที่บ้าน อ.แม่สาย เพื่อหาทำกิน
ซึ่งละหว่างที่กลับมาบ้านยังไม่มีงานทำ แต่ได้มาพบนายอนุภาส ปฏิเสน หรือ สจ.น้อย ช่วยหาล็อตเตอรี่มาให้ขาย นายสัมพันธ์ ซึ่งพิการทั้งตัวจึงได้ให้นายทศพล พิการทางสมอง แต่ตัวไม่พิการ ได้ให้ช่วยเข็นรถวีลแชร์ให้ ออกบ้านตั้งแต่เช้า แร่ขายไปตามตลาดเช้า ซึ่งห่างจากบ้านราว 3 กม.ทุกวันไม่ว่าจะร้อนจะหนาวก็ต้องออกไปขายเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เพราะไม่มีใครที่จะมาหาเลี้ยง และจากขายตลาดเช้า ก็เข็นวีลแชร์กับบ้านมากินข้าว แล้วออกไปต่อ เข็นขายตามบ้านห่างไปราว 4-5 กม. กระทั่งตกเย็นถึงกลับบ้าน แดดร้อนก็พักตามร่มไม้ หรือบ้านเรือนชาวบ้าน ทำมาแบบนี้ถึง 5 ปี กระทั่งเก็บเงินได้เป็นก้อน จึงซื้อหาจักรยานยนต์พ่วงข้างราคา 18,000 บาท เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปขายล็อตเตอรี่เลี้ยงปากท้อง ซึ่งปัจจุบันได้จ้างวานคนขับไปส่งจอดทิ้งไว้ ที่ปั๊มน้ำมัน และจะขายอยู่ในปั๊มน้ำมันเพียงที่เดียว
นายสัมพันธ์ ถือได้ว่านายทศพล เป็นแขนขาให้ทุกวันนี้ทุกเรื่อง แม้กระทั้งทำงานในบ้าน ส่วนตัวเองก็เป็นสมองให้ ถือว่าต่างคนต่างช่วยกัน สามารถเลี้ยงกันได้ ซึ่งทุกวันนี้หลังจากขายล็อตเตอรี่ เก็บเงินหอมรอมริบ สามารถต่อเติมบ้านได้ใช้งบ 200,000 กว่าบาท จึงอยากฝากไปถึงทุกคนที่ร่างกายมีครบ 32 อย่าใช้ชีวิตประมาท หากพลาดไปจะถึงชีวิตและพิการได้ ไม่สามารถจะกลับหวนคืนมาเหมือนเดิมได้ ซึ่งจากการสอบถามนางปราณี บรรเลงกาศ เพื่อนบ้าน ทราบว่า ทั้ง 2 คนต่างคนต่างพิการ แต่ก็ช่วยกันดีมาก ตั้งแต่เห็นมา ดูแลช่วยเหลือกัน และเป็นห่วงกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทราบว่าตัวนายทศพล เบาหวานขึ้น แพทย์ให้นอนโรงพยาบาลแต่ ไม่ยอมนอนเพราะเป็นห่วงคนที่บ้าน
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: