เชียงราย-หอการค้าเชียงรายวอนรัฐบาลใหม่ฟื้นโครงการมอเตอร์เวย์เชียงใหม่เชียงราย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจภาคธุรกิจขนส่งและการท่องเที่ยว
วันที่ 14 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลใหม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และเริ่มเดินหน้าทำงานกันบ้างแล้ว ซึ่งหลายคนก็มีความคาดหวังว่านโยบายการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่จะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้พลิกฟื้นดีขึ้นกว่าปัจจุบัน และในวันที่ 15 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ทางนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการอีก 6 กระทรวง มีหมายกำหนดการในการลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย ณ ด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในเวลา 14.00 น.
ในการนี้ ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสอบถามนายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานหอการค้าเชียงราย เกี่ยวกับความคาดหวังในการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ว่าอยากให้รัฐบาลดำเนินการในเรื่องไดก่อน ซึ่งประธานหอการการค้า จ.เชียงราย ได้เผยว่า จากการพูดคุยร่วมกันระหว่างหอการค้าในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) มีความเห็นร่วมกันที่อยากจะให้ทางรัฐบาลช่วยเร่งรัดในเรื่องการขนส่งเป็นอันดับแรก ซึ่งจะมี 2 โครงการสำคัญ ได้แก่ เรื่องแรกคือช่วยเร่งรัดการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย ให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่วางแผนไว้ ไม่เลื่อนออกไปอีก และเรื่องที่ 2 ทางหอการค้าอยากจะให้ทางรัฐบาลใหม่ได้หยิบยกเอาโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงราย ที่เคยมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการไว้เมื่อหลายปีก่อนขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งในตอนนั้นถ้าได้รับข้อมูลมาไม่ผิด เห็นว่าโครงการดังกล่าวได้ถูกพับไป เพราะผลการศึกษาคงจะเห็นว่าการก่อสร้างไม่คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ลงทุนไป และเกรงว่าจะมีผู้ใช้งานน้อย
แต่ปัจจุบันทางหอหารค้ามองว่ามีหลายปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งรถไฟเชื่อมจากเด่นชัยมาเชียงของ มีเส้นทางมอเตอร์เวย์จากจีนเชื่อมมาถึง สปป.ลาว และยังมีถนนสายใหม่จากในเมืองมาถึงเชียงของ ซึ่งเพิ่งเปิดใช้งานไปได้ไม่นานมานี้ ซึ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้ามีเราสามารถก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์จากเชียงใหม่มาเชียงรายได้ และไปเชื่อมกับถนนมอเตอร์เวย์จากจีนอีก ก็จะมีความสะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น จะส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการขนส่ง การท่องเที่ยว เพราะตนมองว่า จ.เชียงใหม่ ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญเมืองหนึ่งในภาคเหนือ หากเราสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการเดินทางให้สะดวกมากขึ้น หลายๆอย่างมันก็จะดีขึ้น ส่วนเส้นทางเดิมก็คือถนนสาย 118 ก็มีการวางแผนจะขยายเป็นถนน 4 เลนทั้งเส้นทาง ก็จะเป็นถนนกึ่งโลคัลโร้ด ก็จะสามารถใช้เดินทางได้ทั้ง 2 ฝั่ง เพราะเส้นทางมอเตอร์เวย์ที่เคยมีการศึกษากันไว้ก็จะใช้เดินทางเชื่อม 4 จังหวัดคือ เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา และ เชียงราย เป็นเส้นทางฝั่งตะวันออก ส่วนเส้นทางเดิมก็ใช้เดินทางในฝั่งตะวันตก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่อยากจะฝากให้ทางรัฐบาลใหม่ได้ช่วยผลักดันทำให้สำเร็จ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โครงการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงราย ได้เคยมีการพูดคุยหารือในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 55 ที่ จ.เชียงใหม่ โดยในตอนนั้นได้มีมติเห็นชอบในหลักการ เพราะเป็นเส้นทางที่มีความสำคัญเพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค เชื่อมโยงระหว่างเมืองศูนย์กลางภาคเหนือ และประเทศเพื่อนบ้านในสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจไทย พม่า ลาว และจีนตอนใต้ ส่งผลต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในภูมิภาค
โดยในตอนนั้น โครงการได้แบ่งแนวเส้นทางออกเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 เส้นทางเชื่อม จ.ลำปาง กับ จ.เชียงใหม่ เริ่มต้นที่ ต.แจ้ซ้อน-อ.เมืองปาน มาทางทิศตะวันตก-ต.เมืองปาน-ออนเหนือ-บ้านสหกรณ์-แม่โป่ง-แม่ฮ้อยเงิน-ป่าป้อง-สง่าบ้าน-ตลาดใหญ่-ป่าลาน-สำราญราษฎร์ สิ้นสุดที่ ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด ระยะทาง 51.44 กิโลเมตร
และช่วงที่ 2 เส้นทางเชื่อม จ.เชียงราย กับ จ.พะเยา เริ่มต้นที่ ต.ทานตะวัน อ.พาน มาทางทิศใต้-ต.บ้านเหล่า-ป่าแฝก-เจริญราษฎร์-ศรีถ้อย-แม่ใจ-แม่สุก-บ้านใหม่-ท่าจำปี-บ้านต๊ำ-ทุ่งฮั้ว-วังซ้าย-วังเหนือ-วังใต้-ร่องเคาะ สิ้นสุดที่ ต.แม่สุก อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง รวมระยะทาง 82.30 กิโลเมตร
ซึ่งเมื่อเส้นทางทั้งสองช่วงสำเร็จลุล่วง ก็จะเชื่อมกันทั้งทิศตะวันออกมายังทิศตะวันตก และจากทิศเหนือมายังทิศใต้ โดยแนวเส้นทางเริ่มจากตัวเมืองเชียงใหม่ เชื่อมโยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่าน อ.ดอยสะเก็ด อ.แม่ออน อ.เมืองปาน อ.แจ้ห่ม อ.วังเหนือ อ.เมืองพะเยา อ.แม่ใจ อ.พาน อ.เมืองเชียงราย และ อ.เวียงชัย สิ้นสุดที่ตัวเมือง จ.เชียงราย ระยะทางประมาณ 185 กม.
รูปแบบโครงการเบื้องต้นเป็นไปตามมาตรฐานทางหลวงพิเศษ มีรั้วกั้นตลอดเส้นทางเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ยกเว้นทางเชื่อม รูปแบบทางเป็นไปตามสภาพภูมิประเทศ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีรูปแบบถนนพื้นราบ รูปแบบสะพาน และรูปแบบอุโมงค์ แนวเส้นทางที่ตัดผ่านชุมชน พื้นที่เกษตรกรรม จะมีการก่อสร้างทางบริการในลักษณะทางลอด ทางเชื่อม ให้ประชาชนสามารถเดินทางเชื่อมต่อกันได้ สำหรับเส้นทางที่ผ่าน จ.พะเยา จะมีแนวอุโมงค์ลอดดอยหลวง ระยะทาง 5 กม. ลงไปเชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 1 ที่อำเภอแม่ใจ
โดยโครงการดังกล่าวเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถลดเวลาเดินทาง จ.เชียงใหม่-จ.เชียงราย ได้ 45 นาที หรือจาก จ.พะเยา-จ.เชียงราย ลดเวลาลงได้ 40 นาที และจาก จ.ลำปาง-จ.เชียงราย ลดเวลาลง 1 ชั่วโมงเศษ เมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางบนทางหมายเลข 118 โดยเส้นทางสายดังกล่าวอาจจะไม่ใช่หรือไม่ได้สร้างในลักษณะที่แสดงไว้ทั้งหมด เพราะยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้
ข่าวโดย : วรพล ตะติ
