เชียงราย-มีรายงานว่า อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ที่มีพี่น้องชาวเผ่าม้งเดินทางไปเป็นแรงงานมากที่สุด ล่าสุดมีรายงานว่านายนิติกร แซ่ว่าง อายุ 26 ปี เป็นแรงงานที่มิกาม่า ฉนวนกาซา อิสราเอล ไปได้ 2 ปี 4 เดือน ถูกฝ่ายฮามาสจับตัวไป ยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งทางพ่อ-แม่-ลูก-เมียร้องไห้ทุกวัน
วันที่ 12 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านศิลาแดง เลขที่ 80 ม.16 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มีนายเจอ แซ่ลี อายุ 51 ปี (พ่อ) นางนัยนา แซ่ว่าง อายุ 51 ปี (แม่) น.ส.วีรียา ทรงพิศิษฐโถคิน อายุ 23 (ภรรยา) สิทธิ์ชัย แซ่ว่าง ลูกชายคนเดียวของนายนิติกร (ที่หายตัวไป) ซึ่งขณะที่บ้านทางนางนัยนา (แม่) ร้องไห้จุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์ฟ้าดินคุ้มครองลูกชาย ขอให้ได้ลูกชายกลับบ้าน ทั้งน้ำตา ทุกเช้าหรือคิดออกได้ก็จะจุดธูปตลอดเวลา
นส.วีรียา (ภรรยา) เล่าว่า ได้กู้เงิน 110,000 บาท ให้นายนิติกรเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล หวังที่จะได้เงินมาสร้างครอบครัว สร้างบ้านซื้อรถไว้ประกอบอาชีพที่ไทย ซึ่งขณะนั้นตนเองได้ท้องได้ 4 เดือน นายนิติกร ก็ได้เดินทางไปทำงานที่อิสราเอล ยังไม่ได้เห็นหน้าลูกตอนเกิด ตอนนี้ลูกชายได้อายุ 1 ปี 11 เดือนยังไม่ได้เห็นหน้าพ่อ
นส.วีรียา (ภรรยา) ยังเล่าอีกว่า การโทรติดต่อครั้งสุดท้ายกับสามี วันเกิดเหตุที่ 7 ต.ค.เวลา 14.42 น.เวลในประเทศไทย มีเหตุการณ์ยิงกันสนั่น ส่วนนายนิติกรได้บอกภรรยาหลบอยู่ในหลุมหลบภัยคนเดียว ต่อมาก็สามารถติดต่อนายวาโย ยะมา คน จ.อุตรดิตถ์ เป็นแรงงานที่ไปทำงานร่วมกับสามี ทราบว่า ในวันที่เกิดปะทะกันวันแรก ได้มีทหารฮามาสได้เข้ามาควบคุมตัวคนไทยและชาวบ้านได้ 11 คน มีคนไทย 5 คน ระหว่างถูกขวบคุมตัวได้มีการพยายามหนีตายได้ 2 คน คนไทยถูกจับไว้อีก 3 คน ซึ่งต่างคนก็ต่างพยายามหนีเอาตัวรอดกัน สุดท้ายมีนายวาโยหนีตายได้ ซึ่งก่อนที่จะหนีตายได้ถูกมีฟันที่หลังและถูกซ้อมกันทุกคน หลังจากนายวาโย หนีได้จึงได้ส่งข่าวให้ นส.วีรียา ทันที่บอกว่าสามีถูกจับไปกับคนไทยอีกคน ตอนนี้ก็ไม่รู้ชะตากรรมเป็นอย่างไรซึ่งผู้สื่อข่าว ก็ได้ติดต่อทางนายวาโย ชาว จ.อุตรดิตถ์ ได้เหตุการณ์ระทึกขณะเอาตัวรอดหนีตาย ขณะถูกจับกุมตัวกับนายนิติกร ถูกจับมัดมือ ผ้าคุมหัว และถูกซ้อมมีดฟัดแบบป่าเถือน หลังจากหลบออกมาได้วิ่งไปหารถที่จอดข้างทาง พบกุญแจเสียบรถ ไม่รู้เป็นรถใคร จึงขับหนีเอาตัวรอดก่อน ระหว่างทางเจอแต่ศพคนตายเกลื่อน กระทั่งมาพบทหารอิสราเอล จึงได้ถูกนำตัวมาอยู่ที่คิวบูธ บูค่าย ที่นี้มีคนไทย 6-7 คน พักอยู่ที่นี้ ซึ่งตอนนี้ตนเองทราบข่าวว่า หมู่บ้านที่ตนเองทำงานอยู่ทางทหารอิสราเอลได้ควบคุมพื้นที่ได้แล้ว ในส่วนตัวก็ได้มีการติดต่อกับนายจ้างตลอดเวลา ซึ่งนายจ้างก็ยังไม่ทิ้ง ซึ่งตนเองยังรอดูสถานการณ์ไปก่อน ด้าน น.ส.วีรียา พร้อมด้วยพ่อ-แม่-พี่น้องอยากจะขอให้ทางรัฐบาลช่วยติดตาม หาสามีที่หายตัวไปจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่ทราบชะตากรรม ว่าสามียังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: