เชียงราย-หนุ่มชนเผ่าลาหู่บนดอยแม่ฟ้าหลวงกลับถึงไทยชุดที่ 2 ยังทำใจไม่ได้ต้องไปพักอยู่กับเมียที่ระยอง สักพักค่อยกลับบ้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ลูกชาย 2 คน อยากเห็นหน้าพ่ออยากกอดพ่อไม่เจอกันมากว่า 2 ปี
เมื่อค่ำวันที่ 13 ต.ค.66 ที่บ้านเลขที่ 281 บ.แสนเมืองโก หมู่ 2 ต.เทอดไท อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา นายยาลี ทวีสวรรค์ อายุ 63 ปี นางนาแก ทวีสวรรค์ อายุ 58 พ่อตาแม่ยายของนายดุสิต วิบูลย์วิโรจน์กูล พร้อมด้วย ด.ช.นพรัตน์ 14 ปี ด.ช.นพคุณ อายุ 11 ปี ลูกชายของนายดุสิต ได้นั่งคุยทางวิดีโอคอลกับนายดุสิต ภายหลังได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลขึ้นเครื่องบินกลับจากอิสราเอลชุดที่ 2 โดยมีนางรัตนา อายุ 39 ปี ทำงานอยู่ จ.ระยอง เดินทางไปรับสามีนายดุสิตที่สนามบินสุวรรณภูมิ
จากนั้นพากันเดินทางไปพักที่ จ.ระยอง ชั่วคราว เพื่อให้นายดุสิต ปรับสภาพจิตใจ ที่ยังตกใจกับเหตุการณ์ถูกยิงถล่มทั้งอาวุธปืนและระเบิดตกในแคมป์คนงาน พร้อมเพื่อน 15 คน บางคนหนีไม่ทัน ถูกอาวุธปืนได้รับบาดดเจ็บ ทำให้สภาพจิตใจยังไม่ปกติ ประมาณ 2-3 วัน จึงจะกลับไปอยู่ที่บ้าน โดยมีนายเล่าต๋า ลาหู่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ.แสนเมืองโก ต.เทอดไท อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวนายดุสิต และช่วยแปลขณะนักข่าวไปสอบถามความรู้สึกที่ลูกเขยได้กลับบ้านครั้งนี้
นายยาลี พ่อตานายดุสิต ชนเผ่าลาหู่ พูดภาษาไทยไม่ได้ ต้องให้นายเล่าต๋าผู้ใหญ่บ้านช่วยแปลให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า นายดุสิตหลังจากแต่งงานต้องมาอยู่บ้านเมีย ตามประเพณี ส่วนพ่อนายดุสิตอยู่คนละหมู่บ้าน แม่ตายแล้ว ได้ไปทำงานที่อิสราเอล 2 ปี 4 เดือน ค่าใช้จ่ายไป 1 แสนกว่าบาท แต่ได้จ่ายคืนเงินที่ยืมมาหมดแล้ว ไม่มีหนี้สิน กลับมาครั้งนี้ไม่อยากให้ไปอีกแล้ว ช่วงแรก เมื่อได้ข่าวเกิดการสู้รบที่อิสราเอล และแคมป์คนงานที่อยู่นายดุสิต และเพื่อนคนงาน ถูกยิงถล่มต้องพากันหนีตาย ก็เป็นห่วงได้แต่ขอพระเจ้าให้นายดุสิตปลอดภัยได้กลับบ้านโดยเร็ว และลูกชาย 2 คน ของนายดุสิตก็เป็นห่วงพ่อ คอยมาสอบถามเรื่องความเป็นอยู่ของนายดุสิตอยู่ทุกวัน ส่วนลูกชายทั้ง 2 คน ของนายดุสิต ได้กล่าวว่าเมื่อรู้ว่าพ่อกลับมาถึงไทยแล้วก็ดีใจ อยากให้พ่อกลับมาบ้านเร็ว ๆ คิดถึงพ่อและอยากกอดพ่อ ไม่ได้เจอกันมากว่า 2 ปี อยากให้มาอยู่พร้อมกันทั้งครอบครัว
ข่าวน่าสนใจ:
นายดุสิต พูดคุยกับผู้สื่อข่าวผ่านวิดีคอล ว่าขณะนั่งรถยนต์พร้อมกับเมียนางรัตนา เดินทางไปพักที่ จ.ระยอง เล่าว่าวันเกิดเหตุที่ 7 ต.ค.กลุ่มฮามาส ได้บุกเข้ายิงถล่มแคมป์คนงาน และเสียงระเบิดดัง ทำให้คนงาน 15 คน ต่างพากันหนีตายหลบตามสวนผลไม้ และได้รับบาดเจ็บ 2 คน เมื่อทหารอืราเอลเข้าเคลียพื้นที่ จึงพาไปรวมกันอยู่ในศูนย์พักพิง และทางสถานทูตได้ประสานส่งตัวกลับไทยเป็นชุดที่ 2 ขณะนี้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ต่างยังตกใจ ปรับสภาพจิตใจยังไม่เป็นปกติ คงต้องรออีกสักระยะหนึ่ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: