เชียงราย-ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวเต็มที่ ภาคเหนือเป็นอีกแหล่งที่นักท่องเที่ยวจะไม่พลาดที่จะเดินทางขึ้นมาเที่ยว รับบรรยากาศความหนาวเย็น ตามป่าตามเขา และจะหาทานอาหารวัฒนธรรมกลิ่นไอคนภาคเหนือ ทุกรูปแบบ ซึ่งอากาศหนาวเย็นก็มักจะคู่กับอาหารร้อนๆในท้องถิ่น ซึ่งก็มีอาหารที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวต้องมาชิมให้ได้ นั้นคือ ข้าวจี่งา (คนภาคกลางเรียก) ข้าวปุกงา (คนเหนือเรียก) และที่หาทานที่ไหนไม่ได้ ข้าวจี่น้ำพริกถั่วเน่า (อาหารไทใหญ่)ต้องมาที่แม่สาย ถึงจะได้ทาน
วันที่ 28 พ.ย.2566 ที่บริเวณริมทางตรงข้ามกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งจะเป็นร้านล้อเข็นๆ มีนายเจษฏา จันทร์แก้ว หรือพี่ฮ่อง อายุ 46 ปี เป็นรุ่นที่ 2 ต่อจากพ่อ-แม่ ที่ขายมาก่อนหน้า ซึ่งก่อนหน้าจะขายอยู่ตรงบริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 จากนั้นทางเทศบาลได้ให้ย้ายมาอยู่ริมถนน กลายเป็นถนนคนเดินของแม่สายในปัจจุบัน
ข้าวจี่งา ซึ่งจะต้องทานในช่วงเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงกุมภาพันธ์ ระยะ 4 เดือน ซึ่งจะเป็นช่วงที่งาเริ่มมีผลผลิตออกใหม่ หากนำมาทำจะทำให้ข้าวจี่งามีความหอมของกลิ่นงา ซึ่งพี่ฮ่องก็ไล่ซื้อเก็บไว้ขายต่อในช่วงที่ไม่มีผลผลิต ข้าวจี่งานหากทานตอนอาการหนาวเย็นจะเข้ากับบรรยากาศ หอมกลิ่นงาปิ้งใส่น้ำอ้อย ทานในตอนอากาศหนาวเย็น
ในส่วนของข้าวจี่น้ำพริกถั่วเน่า เป็นอาหารของชาวไทใหญ่ ที่รู้จักกันดี ถือได้ว่าเป็นอาหารวัฒนธรรมประจำชาวไทใหญ่ ซึ่งก่อนหน้าสมัยโบราณชาวไทใหญ่เวลาเดินทางใกล้ข้าวป่าเขา หรือไปทำไร่ทำสวนมักต้องห่อน้ำพริกถั่วเน่าใส่กระเป๋าไปด้วย “ บอกเลยว่าทุกเมนูต้องมีน้ำพริกถั่วเน่าขึ้นโต๊ะไปด้วย ” กินคู่กับข้าวเหนียว เป็นของคู่กันที่ขาดไม่ได้ ซึ่งมาถึงปัจจุบันยุคสมัยได้เปลี่ยนไป ลูกหลานชาวไทยใหญ่ได้ประยุคน้ำพริกถั่วเน่า นำข้าวเหนียวทำเป็นแผ่นกลมๆ ทาด้วยน้ำพริกถั่วเน่าลงไปที่ข้าวเหนียวนำไปปิ้งขายแผ่นละ 10 บาท สร้างรายได้ให้กับครอบครัว ทำให้ปัจจุบันคนไทยชายแดน หันพากันมากินข้าวจี่พริกถั่วเน่ากันหมด “ไปแม่สายถามใครอ๋อกันหมด” ซึ่งปัจจุบันข้าวจี่งาขายแผ่นละ 10 บาท ข้าวจี่ถั่งเน่าแผ่นละ 10 บาท พี่ฮ่องจะเข็นล้อออกมาขายเวลา 16.00 น.ไปจนถึง 3 ทุ่ม ขายอยู่ริมถนนพหลโยธินฝั่งขาล่องหรือตรงข้ามสำนักงานปศุสัตว์อำเภอแม่สาย ติดต่อ-0805476994
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: