เชียงราย-ขโมยขึ้นวันเดียว 2 ร้านได้ของมีค่าเหรียญรุ่นแรกของคนอาข่าใช้แทนบัตรประจำตัว
วันที่ 7 ธ.ค.2566 คืนเดียวขโมยขึ้น 2 ร้านติดกัน ได้ทั้งเงินได้ทั้งของสำคัญของบรรพบุรุษเหรียญรุ่นแรก ที่คนอาข่าได้ใช้แทนบัตรประชาชน จากใกล้รุ่งเช้าของวันที่ 6 ธ.ค.เวลา 04.40 นาที ได้มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอมบาง สวมหมวกปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแขนยาวกางเกงสามส่วน มืดถือกรรไกรตัดเหล็กมาด้วย ที่ร้านคาราโอเกะ ถนนป่าตึง ม.5 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยวันที่เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายอายุราว 30-40 ปี ได้ไปแอบขึ้นร้านกาแฟด้านข้าง โดยได้งัดประตูข้างร้านขึ้นไป แล้วไปไล่ทำลายกล้องวงจรปิดภายในร้านทั้งหมด และยังแกะกล่องดำของกล้องวงจรปิดไปด้วย ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะเข้าใจกล้องวงจรปิดเป็นอย่างดี จึงได้ถอดไปหมดไม่มีเหลือหลักฐานไว้
หลังจากขึ้นที่ร้านกาแฟเสร็จ ได้เงินไป 1,500 บาท จากนั้นก็มาที่หน้าประตูร้านคาราโอเกะของนายสมชาย เฌอมือ (ชื่อเล่นชาย) อายุ 26 ปี (เจ้าของร้าน) ได้เผยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่คนร้ายงัดประตูเข้ามาขโมยของในร้าน ซึ่งที่ร้านหลังปิดก็จะกลับไปนอนกันที่บ้าน ซึ่งคนร้านน่าจะเป็นลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้านแน่นอน เพราะไม่มีใครรู้ว่าอะไรอยู่ในร้านตรงไหนบ้าน นอกจากลูกค้าที่มานั่งที่ร้านแล้วจะมองจดจำไว้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน หลังปิดร้านก็จะปิดไฟทั้งหมด
ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ คนร้ายปิดบังใบหน้าถือกรรไกรตัดเหล็กมาตัดกุญแจล็อคประตูออก ขณะที่มีรถวิ่งผ่านหน้าร้าน คนร้ายจะนั่งก้มลงไม่ให้รถที่ผ่านไปมาเห็นคนร้าย หลังจากงัดประตูเข้าไปได้คนร้ายเดินตรงไปที่เราเตอร์อินเตอร์เน็ต (เหมือนจะรู้) แล้วเดินไปสำรวจห้องนอนหลังร้านว่ามีใครนอนรึป่าว จากนั้นได้เดินไปถอดปลั๊กอินเตอร์เน็ตปิดกล้องวงจรปิด และทำร้ายกล่องกล้องวงจรปิด แต่เจ้าของร้ายสามารถโหลดภาพจากมือถือเก็บไว้ได้ จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองเชียงราย
ซึ่งในวันเกิดเหตุ ได้มีทรัพย์สินเงินในโต๊ะหายไปราวสองพันกว่าบาท และที่สำคัญคือเหรียญเงินมีพระฉายาลักษณะ ที่ชนเผาอาข่าที่ดอยผาหมี ได้ใช้แทนบัตรประจำตัวในสมัยนั้น เดินทางไปไหนในเมืองไทยได้ไม่ถูกจับ ซึ่งคนอาข่าที่มีส่วนใหญ่จะเก็บไว้ เป็นเหรียญที่หายากไม่มีทั่วไป มีแต่คนอาข่ารุ่นแรกที่เข้ามาอาศัยตามแนวชายแดนเท่านั้น และมีการเก็บไว้ให้ลูกหลาน ซึ่งเหรียญดังกล่าวนายชาย ก็ได้จากปู่ที่อยู่บนดอยผาหมี จึงเก็บไว้เป็นอย่างดี แต่ดันถูกขโมยไปอีก จึงได้ประกาศผ่านโซเชียลให้ที่สามารถแจ้งเบาะแสคนร้าย จนสามารถให้เจ้าหน้าที่จับได้ให้เงินรางวัล 5,000 บาท
