เชียงราย-สบอ.15 (เชียงราย) บุกจับรุกป่าอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก เร่งขยายผลนายทุนรุกป่า ตามข้อสั่งการของพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทส. ให้เข้มงวดปราบปรามการบุกรุกป่า
วันที่ 7 ธันวาคม 2566 นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผอ.สบอ.15 ได้เปิดเผยว่า นายพิทยา สะศรีสังข์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก นายอายุวัฒก์ แพอ่อน หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สรวย พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม GOOGLE EARTH ปีพ.ศ.๒๕๖๖ ในท้องที่บ้านห้วยหก หมู่ที่ ๑๒ ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย อยู่ในบริเวณพื้นที่เตรียมประกาศอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก แปลงปลูกป่าปี ๒๕๓๑ ของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สรวย พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงสภาพป่าต่างไปจากเดิม และบริเวณนี้เป็นจุดเกิดเหตุไฟป่าในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จึงได้เข้าทำการลาดตระเวนบริเวณดังกล่าว พบผู้กระทำความผิดจำนวน ๒ ราย พร้อมด้วยอุปกรณ์กระทำความผิด ๕ รายการ ขณะกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต จึงได้เข้าทำการจับกุม ตรวจสอบพบมีพื้นที่เสียหายทั้งหมดจำนวน ๔-๒-๖๓ ไร่ และได้ตรวจพบพื้นที่ถูกบุกรุกอีก จำนวน 43-3-11 ไร่ พบร่องรอยการใช้เครื่องจักรในการตัดถนนเข้าพื้นที่ขนาดความกว้างถนน 4 เมตร ยาว 430 เมตร พบการขุดบ่อพักน้ำจำนวน 2 บ่อ โดยบ่อที่ 1 ขนาด 20×20 เมตร และบ่อที่ 2 ขนาด 20×30เมตร พบมีการสร้างเพิงพักกึ่งถาวร จำนวน 1 หลัง และปลูกพืชอาสิน 2 รายการ ได้แก่ ต้นยางพารา และต้นชาอัสสัม แต่ไม่พบผู้กระทำผิดในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง โดยเชื่อว่าเป็นกระบวนการบุกรุกป่าโดยมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง คณะเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลังฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป และได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่สรวย ไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ป้องกันปราบปรามการลักลอบตัดไม้ และการบุกรุกทำลายป่าอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามนโยบายของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในเรื่องการเฝ้าระวังพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ป่าในช่วงฤดูกาลไฟที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบบุกรุกพื้นที่หลังเหตุไฟป่า โดยให้หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติและกฎหมายเกี่ยวกับการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้การเผาป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ยังมีโทษปรับสูงสุด 2 ล้านบาท และจำคุก 20 ปี หากพี่น้องประชาชนพบเห็นผู้ที่ฝ่าฝืน กระทำผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: