จากรณีที่มีแก๊งวัยรุ่นชาวเมียนมาออกอาละวาด ลักขโมยจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่เขตอำเภอแม่จันและอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ยามวิกาล ได้ไปหลายสิบคัน ลักลอบข้ามไปยังขายยังประเทศเพื่อน ทำให้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.แม่จัน สภ.แม่สาย ได้ออกตามล่า กระทั้งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้วางแผนล่อจับที่เขตพื้นที่อำเภอแม่สาย พร้อมกับของกลาง ที่ได้งานกาชาดแม่สายขณะกำลังจะขโมยรถคนมาเที่ยวงาน
วันที่ 18 ธ.ค.2566 ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย สภ.แม่จัน ร่วมกันสามารถจับผู้ต้องหาตัวการใหญ่นายมูลซา (ตัวการใหญ่) ได้ที่งานกาชาดอำเภอแม่สาย พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ขณะกำลังจะขโมยรถในงานกาชาดแม่สาย ผู้ต้องหายอมรับสารภาพเป็นคนขโมยรถ พร้อมนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพซึ่งจากการสอบถามนายมูซา กาซิม อายุ 18 ปี ชาวเมียนมา (ตัวการใหญ่) เผยว่า ก่อนหน้าเคยเป็นช่างซ่อมจักรยานยนต์มาก่อน หลังจากออกงาน ก็ไม่มีงานทำ ครั้งแรกจึงตัดสินใจออกตระเวนลักขโมยรถจักรยานยนต์เป็นครั้งแรก เพื่อจะนำมาขับขี่เล่น หลังจากขโมยได้ ขับขี่ได้สักระยะหนึ่ง จึงนำไปขาย 2,5000 บาท รู้สึกว่าหาเงินง่าย จึงได้ชักชวนเพื่อนที่เช่าพักในเขตอำเภอแม่สาย ออกตระเวนลักขโมยในเขตพื้นที่อำเภอแม่สายนำเงินมาใช้เที่ยวเล่น กระทั่งเจ้าหน้าที่ออกไล่ล่า จึงย้ายสถานที่ลักขโมยมาพื้นที่อำเภอแม่จันซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเลือกเอาฮอนด้าเวฟ 110 เนื่องจากสามารถหักคอรถใช้กุญแจผีหรือต่อไฟตรงเสียบสตาร์ได้ง่าย และยังเป็นที่ต้องการของตลาด และมีอะไหล่หาง่าย ส่วนใหญ่ขายตามสภาพราคา 10,000 บาท ถึง 25,000 บาท แล้วแต่สภาพของรถนายมูซา (หัวหน้าแก๊ง) ยังเผยอีกว่า หลังขโมยรถมาได้ จะเอาไปซุกซ่อนไว้ แล้วข้ามไปติดต่อสอบถามราคาที่ร้านค้าฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หลังตกลงได้ราคาจะนำลักลอบข้ามน้ำกลางดึก (ช่องทางธรรมชาติ) ได้เงินนำมาแบ่งกัน ซึ่งจะทำกันเป็นขบวนการมีราว 7-8 คน ที่พักอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่แม่สาย หากจะใช้คนเพิ่ม จะเรียกพวกยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมาช่วยกัน ซึ่งมีรายงานแก๊งนายมูซา กาซิม จะมีการแต่งกายชุดนอนเหมือนกัน ซึ่งทราบว่าเวลาออกลักขโมยจักรยานยนต์เวลาไหน จะต้องแต่งกายชุดนอนเหมือนกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวยาก ซึ่งเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกล่องวงจรปิด หรือมีการติดตาม จะไม่ได้รู้ว่าเป็นคนไหน โผล่แยกย้ายกันไปทุกที่ ล่าสุดได้มีเจ้าของจักรยานยนต์เดินทางมารับรถที่หน้า สภ.แม่จัน รู้สึกดีใจที่ได้รถคืนกลับมา ซึ่งตามหลักคิดว่า หายแล้วคงจะไม่ได้คืนแน่
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: