เชียงราย-หนุ่มวัย 17 ป่วยกระดูกคด ครอบครัวสุดลำบาก ร้องขอพึ่งใบบุญหลวงพ่อพบโชค เพื่อเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีหนุ่มเชียงรายวัย 17 ปี ป่วยด้วยอาการกระดูกสันหลังคด ทำงานหนักไม่ได้ อาศัยอยู่กับพ่อเพียงลำพังกลางป่าในเมืองเชียงราย ประทังชีพด้วยการหาของเก่าขาย จึงประสานขอความช่วยเหลือผ่านทางผู้ประสานงานของสถานพินิจเชียงราย เพื่อหวังขอโอกาสไปบวชอยู่ในความดูแลของหลวงพ่อพบโชค ติสสวังโส วัดห้วยปลากั้ง และพาพ่อไปใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่วัด หลังจาก ผวจ.เชียงราย ทราบเรื่อง จึงสั่งการให้ทั้งปลัดจังหวัด พมจ.เชียงราย ปปส. อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ไปดูสภาพความเป็นอยู่ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา และทางหน่วยงานที่ลงพื้นที่ได้รับปากจะพาไปพูดคุยเพื่อขอความช่วยเหลือกับทางวัดห้วยปลากั้ง ในวันจันทร์ที่ 12 ก.พ. ที่จะถึงนี้
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับนายกำพล ศรีชุม อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ร้องทุกข์ถึงผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดดังกล่าว โดยพบว่าทั้ง 2 พ่อลูกอาศัยอยู่ในป่า ก่อนถึงสำนักงานการเคหะ พื้นที่บ้านป่าข่า ม.8 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย การเดินทางเข้าไปที่อาศัยจะต้องจอดรถไว้ริมถนน และเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 1 กม. ต้องเดินข้ามสะพานไม้ไผ่ ซึ่งชาวบ้านได้นำไม้ไผ่จำนวน 3 เล่ม มาวางพาดและทำราวจับ เพื่อเป็นสะพานเดินข้ามไปหาหนองน้ำ ต้องเดินผ่านป่ารกทึบ ซึ่งบ้านของ 2 พ่อลูกใช้อาศัย เป็นกระท่อมหลังเล็กๆ อยู่ข้างๆหนองน้ำ ซึ่งชาวบ้านมักจะมาหาปลากัน เมื่อไปถึงก็พบกับนายอนันต์ ศรีชุม อายุ 58 ปี พ่อของนายกำพล ทั้ง 2 ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อก่อนได้เช่าบ้านอยู่ในชุมชนบ้านป่าข่า เดือนละ 1,200 บาท แต่ด้วยความยากจน ต้องหากินด้วยการหาเก็บขวดและของเก่าไปขายเลี้ยงชีพ หาเงินไม่พอกับค่าเช่า จึงพากันย้ายมาอยู่ที่ตรงนี้ได้ประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว แต่ก็ไม่มีทั้งน้ำใช้และไฟฟ้า ทุกวันนี้อาศัยใช้น้ำจากหนองน้ำ ส่วนน้ำดื่มก็ไปขอหรือซื้อมาจากข้างนอกบ้าง ส่วนรายได้หลักก็ยังมาจากการตระเวณหาของเก่าไปขาย ได้เงินวันละประมาณ 100-250 บาท แต่บางวันก็ได้เพียง 60-70 บาทก็มี บางวันก็หาปลาในหนองน้ำมากินกัน
นายกำพล เล่าต่อว่า ในอดีตตนเคยบวชเรียนที่วัดพระแก้ว ในตัวเมืองเชียงราย จนถึงชั้น ม.1 ก็ประสบปัญหากระดูกสันหลังคดงอ ก็เลยย้ายมาอยู่วัดข้างบ้าน และเรียนต่อ กศน.จนจบชั้น ม.3 และสึกออกมาอยู่กับพ่อในเวลาต่อมา และเคยทำผิดในคดี ต้องอยู่ในความดูแลของสถานพินิจเชียงราย และหลังพ้นโทษก็มีเจ้าหน้าที่จากสถานพินิจมาติดตามและให้ความช่วยเหลือบ้าง โดยทุกครั้งที่มาเยี่ยมก็จะมีถุงยังชีพ ข้าวสาร ไข่ หรืออื่นๆ มาให้เสมอ
“ล่าสุดตนก็เลยร้องขอผ่านเจ้าหน้าที่ว่าตนอยากจะบวชที่วัดห้วยปลากั้ง และพาพ่อไปอยู่ทำงานที่วัดด้วย เพราะทุกวันนี้พ่อก็ต้องลำบากออกไปทำงานหาเงินคนเดียว ซึ่งก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดูสภาพความเป็นอยู่แล้ว และจะมีการพาไปพบกับหลวงพ่อพบโชคเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งหากได้บวชอย่างที่ตั้งใจก็คงจะดี เพราะพ่อก็ไม่ต้องลำบากออกไปเก็บขยะมาขายอีก” นายกำพล กล่าว
