เชียงราย-ชาวบ้านแม่โมงเย้า ต.วาวี ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อตั้งหมู่บ้านมาเกือบ 30 ปี แต่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ห่างไกลระบบสาธารณูปโภคทุกอย่าง
วันที่ 18 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านแม่โมงเย้า ม.15 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เข้าร่วมให้ข้อมูลและปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านกับนายฐากูร ยะแสง ส.ส.เชียงราย เขต 3 พรรคก้าวไกล ที่หอประชุมโรงเรียนบ้านแม่โมงเย้า มีผู้นำและชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายบุญทอง ชัยผ่าน ผู้ใหญ่บ้านแม่โมงเย้า เผยว่า ต.วาวี อ.แม่สรวย มีทั้งหมด 20 หมู่บ้าน แต่บ้านแม่โมงเย้า ซึ่งมีประชากร 400 กว่า คน 120 ครัวเรือน เป็นหมู่บ้านเดียวที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งที่ก่อตั้งหมู่บ้านมาตั้งแต่ปี 2538 ทุกวันนี้ต้องอาศัยไฟจากเครื่องปั่นไฟและบางบ้านก็ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งมีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง และที่สำคัญชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ทำไร่ชาอัสสัม แต่เมื่อไม่มีไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามา ก็ทำให้ชาวบ้านขาดโอกาสในการแปรรูปชา เพราะต้องใช้เครื่องจักรในการแปรรูป ชาวบ้านต้องไปว่าจ้างให้หมู่บ้านอื่นแปรรูปก่อนนำมาจำหน่ายนอกจากนี้ บ้านแม่โมงเย้า ม.15 ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสูง ทางเข้าไปหมู่บ้านค่อนข้างลำบาก เวลามีผู้ป่วยจะต้องส่งตัวไปรักษาในตัวอำเภอหรือตัวจังหวัด เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทาง อบต.ท่าก๊อ ได้ช่วยจัดสรรงบประมาณสร้างถนนเป็นช่วง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านไปได้บ้าง และน้ำอุปโภคบริโภคในหมู่บ้านปัจจุบันยังใช้ระบบประปาภูเขา ซึ่งในช่วงฤดูแล้งจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในบางหย่อมบ้าน (ในหมู่บ้านมีการกระจายกันอยู่ แบ่งเป็นประมาณ 5 หย่อมบ้าน) มีการขอทำเรื่องขุดบ่อบาดาลไปแล้วแต่ยังไม่ผ่าน แต่ชาวบ้านต้องการไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก่อนเป็นอันดับแรก เพราะสามารถใช้ต่อยอดการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพได้เป็นอย่างมากซึ่งจากการพูดคุยกันในเบื้องต้นพบว่า ปัญหาและอุปสรรคที่ไม่สามารถขยายเขตการให้บริการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เกิดจากหลายปัจจัย เช่น กฏระเบียบของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ ซึ่งเป็นกฏระเบียบที่ค่อนข้างเก่า ไม่ทันสมัย ซึ่งต้องขอยื่นแก้ไขกฏระเรียบเพื่อผ่อนปรนในการสร้างสาธารณูปโภคให้ชาวบ้านพื้นที่ห่างไกล และปัญหาอีกอย่างก็คือความคุ้มค่าในการลงทุนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพราะในการลงทุนติดตั้งเสาไฟฟ้าและสายไฟเข้าพื้นที่แต่ละแห่งใช้งบประมาณค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นคนในชุมชนจะค้องมียินยอมความพร้อมใจในการใช้ไฟฟ้า เพื่อที่ทางการไฟฟ้าจะได้ตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัญหานี้ทางชาวบ้านแม่โมงเย้าต่างบอกว่ามีความพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายที่เพิ้มขึ้น เพราะทุกวันนี้ไม่มีไฟฟ้าเลย การดำรงชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก เด็กที่ไปเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน หรือชาวบ้านที่ไปทำงานนอกบ้าน ก็ต้องกลับบ้านก่อน 6 โมงเย็น ถ้ากลับบ้านตอนมืดก็ไม่มีแสงไฟ ซึ่งหลังจากทีมงาน ส.ส. ได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว ก็จะนำปัญหาที่ได้รับร้องเรียนไปสู่การหารือในระดับรัฐสภา เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: