เชียงราย-คนร้ายย่องเข้าบ้านขโมยรถไปทั้งคัน เหมือนเป็นบ้านตนเอง รถว่าจะเอารถไปยังไง ซึ่งก็เป็นที่น่าแปลกใจ
วันที่ 25 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีที่มีคนร้ายย่องปีนรั้วเข้าไปขโมยรถยนต์กระบะ ที่จอดไว้ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ในช่วงเวลากลางวัน ตอนเจ้าของบ้านออกไปทำงาน คาดคนก่อเหตุเป็นมืออาชีพ กว่าเจ้าของจะกลับมาบ้านก็เป็นช่วงเวลาเย็น คนร้ายหลบหนไปไกล ฝากเตือนให้เพิ่มความระมัดระวัง โจรขโมยชุกชุมผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายทรวเดช ไชยชมภู อายุ 59 ปี ที่บ้านเลขที่ 89 ม.7 บ้านฝั่งหมิ่น ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่ถูกขโมย เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุคือช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 วันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนออกไปทำงานก่อสร้างบ้านของคนภายในหมู่บ้านเดียวกัน ก็ได้มีคนร้ายซึ่งมีพบเห็นว่ามากัน 3 คน ขับขี่รถ จยย. มากัน 2 คัน ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะลงมาเลียบๆเคียงๆรอบบ้านของตน โดยมีพี่สาวตนที่อยู่บ้านเยื้องๆกัน และมีลุงที่มาทำนาที่ข้างบ้านตนพบเห็น และได้เข้ามาคุยกับคนดังกล่าว แต่ชายดังกล่าวทำทีคุยโทรศัพท์ด้วยภาษาชนเผ่าที่น่าจะเป็นภาษาลาหู่ ไม่สนใจคนที่เข้าไปถาม คาดว่าคนร้ายจะปีนเข้ามาทางกำแพงด้านหลังบ้านเพราะพบร่องรอยการปีนข้าม ก่อนจะเข้าไปขโมยรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บษ 7782 เชียงราย ที่จอดไว้ในโรงรถขับหนีออกไป กว่าที่ตนจะเลิกงานกลับมาบ้านก็เป็นเวลาประมาณ 17.00 น. พอมาถึงบ้านไม่เห็นรถที่จอดอยู่ก็ร้อนใจ ไปถามพี่สาวและเพื่อนบ้านก็ไม่มีใครพบเห็น จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดของบ้านที่อยู่ติดกัน ก็พบว่าคนร้ายเข้ามาช่วงเวลาประมาณบ่ายเที่ยงกว่า และขับรถออกจากบ้านในเวลาประมาณบ่าย 2 จึงประสานผู้ใหญ่บ้านไปช่วยติดตามกล้องวงจรปิดตามที่ต่างๆ จนพบว่าคนร้ายมาด้วยกัน 3 คนดังกล่าว และหนึ่งในคนร้ายสวมหมวก ได้เข้ามาขโมยรถและขับหลบหนีไปทางถนนเด่นห้า-ดงมะดะ มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่ลาว จึงได้พากันไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไล่ด็กล้องวงจรปิดและประสานไปยัง สภ.ใกล้เคียง จนไปพบรถของตนไปปรากฏในกล้องวงจรปิดพื้นที่ อ.แม่สรวย และล่าสุดไปโผล่ที่ จ.เชียงใหม่ ไม่รู้จักติดตามตัวคนร้ายและรถกลับมาได้หรือเปล่า“รถคันดังกล่าวตนเองทำงานเก็บเงินซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ตนจะใช้ไปไร่ไปสวน ตอนเช้าในวันที่รถหาย ตนยังเอาปุ่ยและเครื่องพ่นยาไปที่สวนลำไยอยู่ ก่อนจะกลับเข้ามาจอดไว้ในบ้านและไปทำงานก่อสร้าง คนที่เข้ามาขโมยน่าจะเป็นมืออาชีพ เพราะกุญแจของตนยังอยู่ภายในบ้าน ไม่มีร่องรอยการงัดแงะบ้าน คาดว่าคนร้ายอาจมีกุญแจผีหรือรู้วิธีงัดแงะรถ เมื่อโดนขโมยรถไปก็เหมือนถูกตัดแขนตัดขา ไปไหนมาไหนลำบาก จึงอยากฝากเตือนให้ทุกคนเก็บรักษาทรัพย์สินให้ปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายนายมนัส แก้ววงค์ อายุ 56 ปี ผญบ.ฝั่งหมิ่น กล่าวว่า คนร้ายเข้ามาในชุมชนในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะออกไปทำงานนอกบ้าน โดยในบริเวณบ้านหลังเกิดเหตุก็ไม่มีใครอยู่ แต่มีคนพบเห็นว่าคนร้ายมาด้วยกัน 3 คน ก่อนที่ดนึ่งในคนร้ายจะขับรถเข้าไปในซอยข้างบ้านหลังเกิดเหตุ โดยไปเดินเตร็ดเตร่ภายในซอย มีคนพบเห็นและสอบถามว่ามาทำไม เขาก็ไม่สนใจ ทำทีเป็นคุยมือถือเป็นภาษาลาหู่ ก่อนที่ต่อมาอีก 2 คนจะขับขี่รถ จยย.มาพร้อมกับถังน้ำมัน ทำทีมาตามหาเพื่อน มีพี่สาวของผู้เสียหายพบเห็นและสอบถามคนร้ายเขาก็อ้างว่าเพื่อนน้ำมันรถหมดจึงไปซื้อมาเติมให้ ประกอบกับวันดังกล่าวได้มีช่างมาติดตั้งไฟกิ่งในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงคิดว่าเป็นทีมงานเดียวกัน จึงไม่ได้ระมัดระวังเท่าที่ควร แต่กลับกลายเป็นคนร้ายลักขโมยรถ จึงอยากฝากเตือนไปยังทุกๆคนให้เก็บรักษาทรัพย์สินให้ดี เพราะปัจจุบันขี้ยาเยอะ หมู่บ้านตนอยู่มานานก็เพิ่งมีเหตุลักขโมยในครั้งนี้ และเจ้าของบ้านต้องล็อกกุญแจบ้านเวลาออกนอกบ้านทุก ๆ ครั้ง เพื่อป้องกันคนร้าย ด้านนางสมจิตต์ วงค์เพ็ญ อายุ 59 ปี พี่สาวของผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเห็นคนร้ายทั้ง 3 ในวันเกิดเหตุ และจำคนร้ายได้ เพราะหนึ่งในคนร้ายสวมรองเท้าสีชมพู จึงจำง่าย แต่ตอนนั้นกลุ่มคนดังกล่าวอ้างว่าน้ำมันหมด ตนก็คิดว่าไม่มีอะไร ประกอบกับจะรีบไปเที่ยวหาพี่เขย แต่พอกลับมาบ้านจึงรู้ว่ารถของน้องชายหายไปจากบ้าน และจากภาพกล้องวงจรปิดก็เห็นหนึ่งในคนร้ายที่สวมรองเท้าสีชมพูปรากฏอยู่ในกล้องด้วยล่าสุดทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในระหว่างติดตามหารถคันที่ถูกขโมย แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะกว่าเจ้าของรถจะรู้ตัวว่ารถถูกขโมย คนร้ายก็ขับรถออกนอกพื้นที่ไปแล้ว โดยชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าคนที่มาก่อเหตุในครั้งนี้อาจจะเป็นคนที่หลบหนีออกตากโรงพัก สภ.เมืองเชียงราย และยังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่อยู่ เพราะเป็นชาวบ้านปากฆ้อง ซึ่งเป็นบ้านบริวารของบ้านแม่สาด ม.4 ต.แม่กรณ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุครั้งนี้ แต่ก็เป็นเพียงการคาดคะเนกันของชาวบ้านเท่านั้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: