เชียงราย-จากกรณีที่มีหนุ่มอายุ 18 ปี นักศึกษามานั่งขายน้ำชาผลไม้ ทาง 3 แยกชุมชนป่าส้าน อ.เมือง จ.เชียงราย ทำให้มีคนแปลกใจและเห็นใจหนุ่มน้อย มานั่งขายน้ำชาผลไม้ริมทาง ท่ามกลางแดดร้อน กระทั่งมีคนให้ความสนใจเข้าไปถามเป็นลูกใครมาจากไหน ถึงขยันทำมาหากินไม่อาย ซึ่งหลังจากมีลูกค้าไปซื้อและไปถาม จึงได้ไปโพสต์ลงโซเชียล ถึงความตั้งใจมุมานะ ที่ดูแลตัวเองหาเงินช่วยเหลือตัวเองขณะที่ยังเป็นเด็กหนุ่ม โดยไม่อายใคร ที่ทำมาหากิน ซึ่งยังดีกว่าเวลาไปทิ้ง คิดหาเงินตั้งแต่เด็ก ซึ่งก็มีคนเห็นใจซื้อร่ม และนำสิ่งของที่ใช้ใส่สัมภาระมาเพิ่มให้ ด้วยความสงสาร
วันที่ 26 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง 3 แยกชุมชนบ้านป่าส้าน ตามที่มีคนโพสต์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็น 3 แยก มีรถวิ่งผ่านไปมา ซึ่งก็ถือเป้นทำเลที่ดีในการขายสินค้า ได้พบกับหนุ่มที่ว่า กำลังบรรทุกเก้าอี้ยาวใส่ท้ายรถจักรยานยนต์ และวิ่งไปเอาของเข้าออกมาวาง ตรงจุดขาย 3 แยก ต่อมาทราบชื่อว่า นายพงศกร แซ่ลี (มิว) อายุ 18 ปี บ้านจริงอาศัยอยู่ที่บ้านห้วยเวียงหวาย ม.6 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ขายชาผลไม้มาได้ 10 วัน ซึ่งผลตอบรับส่วนใหญ่คนที่ผ่านไปมาจะเเวะเวียนมาซื้อด้วยเห็นความมุ่งมั่นของน้อง ท่ามกลางแดดที่ร้อน ทราบว่ากำลังเรียนจบที่โรงเรียนสามัคคี และไปสอบติดที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะศิลปกรรมศาสตร์สาขาศิลปะการแสดงซึ่งที่ผ่านมาระหว่างที่เรียนอยู่ได้รับทุนทางโรงเรียนสามัคคี จ.เชียงราย และทางครอบครัวให้ใช้จ่ายวันละ 100 บาท ทานอาหาร ซึ่งไม่พอกับการครองชีพใช้จ่ายประจำวัน ดังนั้นระหว่างที่เรียนด้วย หางานทำไปด้วยตามร้านอาหารทั่วไป เก็บออมมาตลอด ใช้จ่ายค่าหอและอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ มาโดยตลอดเพราะไม่อยากให้เป็นภาระทางครอบครัว พ่อ-แม่ มีอาชีพขายของเร่ไปตามตลาดต่างๆทุกเช้า และด้วยความชินที่เคยถูพ่อแม่พาไปขายของจึงมีความมั่นใจและมุมั่น ทำอาชีพเสริมช่วยเหลือตนเอง ซึ่งช่วงนี้ตนเองยังพักอยู่ในหอ อีก 2 เดือน ก่อนที่จะย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยขอยแก่น จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในการดำรงชีวิตและเรียน ฉะนั้นตนเองจะต้องรีบหาเงินในช่วงที่มีเวลา จึงได้นำเงินที่เก็บออมไว้ที่ก่อนหน้าเคยทำงาน ได้นำไปซื้ออุปกรณ์เครื่องมือหากินทำชาผลไม้ มานั่งขายตรงบริเวณดังกล่าว เพื่อจะได้เก็บเงินส่งตัวเองเรียนต่อที่ขอนแก่น ด้านนางรัชฌย์ สิทธิศักดิ์ (พี่ติ๊ก) เป็นหนึ่งคนที่ให้การช่วยเหลือน้องมิว ซึ่งตนเองได้ขับรถผ่านไปมา ได้พูดคุยจึงเล็งเห็นความมุมานะขยันส่งตัวเองเรียน เห็นน้องมิวนั่งอยู่ท่ามกลางแดดร้อน จึงได้ไปหาร่มคันใหญ่มาให้ และกล่องโฟมที่กำลังจะพัง จึงไปหามาให้และมั่นมาให้กำลังใจน้องมิวตลอด ถือว่าเป้นตัวอย่างคนเด็กสมัยนี้ ที่รู้จักทำมาหากินช่วยเหลือตนเอง ไม่รบกวนพ่อแม่ ด้านน้องนิว ยังเผยอีกว่า ที่มีความยังใจไปเรียนคณะนี้ เพื่ออยากจะไปทำตามความฝันเป็นนักร้อง ซึ่งหากย้ายไปแล้ว ไปเรียนมหาลัยขอนแก่น หากมีโอกาสก็จะค้าขายเลี้ยงตนเองอีก และยากฝากไปถึงวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ อย่าเอาเวลาไปเสียไปวัน ๆ มีโอกาสหาเงินได้ก็รีบหาก่อน
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: