เชียงรายรับกรรมจุดความร้อนน้อยสุด แต่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานกว่า 1 เดือน ผู้ว่าฯสั่งปรับแผนยกระดับความเข้มข้นจัดชุดเคลื่อนที่เร็วจับมือเผา
วันที่ 14 มี.ค.2567 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจ.เชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจ.เชียงราย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจ.เชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นำคณะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า PM 2.5 และมอบหน้ากากอนามัย มุ้งปลอดฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดื่มชูกำลัง ให้นำไปใช้ในพื้นที่อำเภอชายแดน 3 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟป่า ประกอบไปด้วย อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และอ.เชียงของ จ.เชียงรายนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายตั้งแต่ในช่วงมีที่ประกาศห้ามเผา ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ จนถึงวันนี้พบจุดความร้อน 269 จุด ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในจังหวัดภาคเหนือตอนบน แต่ทางกลับกันสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที 1 (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) รายงานว่ามีค่าฝุ่นละอองขนาด PM 2.5 เกินมาตรฐานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 13 มี.ค.ครอบคลุมทุกจังหวัดโดย จ.เชียงราย เกินมาตรฐานแล้ว 43 วัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เป็นช่วงที่เกิดฝุ่นละออง และฝุ่นควันหรือ PM 2.5 สูงสุด จึงจะมีการยกระดับมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในจ.เชียงราย โดยจะใช้กลไกของพื้นที่ ดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา จะมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วในระดับอำเภอทุกอำเภอ และในระดับตำบลที่มีพื้นที่เสี่ยงชุดละ 10 คน บูรณาการการทำงานลาดตระเวน และตรึงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ชุดเหยี่ยวไฟ ของกรมอุทยาน ชุดเสือไฟของกรมป่าไม้ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสมือเผา โดยมีรางวัลในการแจ้งเบาะแส และนำจับ 5,000 บาท
ในส่วนของความพร้อมในรับมือปัญหา PM 2.5 ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และอ.เชียงของ จัดทำห้องปลอดฝุ่น พร้อมเครื่องฟอกอากาศ โดยเฉพาะตามศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทุกแห่งให้ครบทุกแห่ง และได้มอบหมายให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ออกเดินเคาะประตูบ้านให้คำแนะนำกลุ่มเสี่ยงคือเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยติดเตียง ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับกรณีหมอกควันข้ามแดน ทางจ.เชียงรายได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน เพื่อเป็นการป้องกันการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กPM 2.5 อันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนทั้งสองประเทศ จึงขอความร่วมมือให้คำแนะนำประชาชนในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และขยะมูลฝอยในครัวเรือนโดยวิธีที่เหมาะสมตามหลักวิชาการโดยหลีกเลี่ยงการเผา รวมถึงความร่วมมือกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเต็มที่
ซึ่งในวันเดียวกันผู้ว่าราชการ จ.เชียงรายได้ลงพื้นที่ไปให้กำลังใจและมอบน้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องดื่มชูกำลังให้กับเจ้าหน้าที่ ที่ร่วมกันดับไฟป่าในพื้นที่ตำบลบ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จากนั้นได้เดินไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเวียงเชียงของ ไปตรวจเยี่ยมดูความพร้อมของห้องเรียนปลอดฝุ่น และร่วมกับสโมสรโรตารีเชียงของมอบเครื่องฟอกอากาศจำนวน 10 เครื่องให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่อ.เชียงของอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: