เชียงราย-เล่นเอาทั้งตำรวจ-กู้ภัยสยามแม่สายเหนื่อยไป 2 ชม.ร้องขอคนเจ็บไปรักษาตัวโรงบพยาบาล แต่คนเจ็บกำลังมีอาการมึนเมา ขอร้องยังไงก็ไม่ไป ร้องแต่จะขอพบคนโน้นคนนี้ และร้องหากระเป๋าสุดท้ายโล่งใจทั้งตำรวจและกู้ภัยไปพบกระเป๋า-โทรศัพท์ใต้เบาะรถ
วันที่ 16 มิ.ย.2567 เวลา 04.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ให้บริการประชาชนโป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักยานยนต์ล้มเอง แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง เข้าไปก่อความวุ่นวายในร้านประดับยนต์ริมทาง บริเวณ 3 แยกไฟแดง ถนนสายเลี่ยงเมืองไปสะพานแห่งที่สองแม่สาย หรือก่อนถึงบ้านเอื้ออาทรโครงการ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยกู้ภัยสยามแม่สาย รุดไปที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุ ได้พบหญิงอายุราว 30-35 ปี สวมเสื้อเชิ้ตลาย กางเกงขาสั้น ไม่สวมรองเท้า มีสภาพมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่องวกไปวนมา พบมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และที่ใต้คางมีบาดแผลฉีกเปิดกว้างมองเห็นกระดูกใต้คาง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ Honda ZoomerX สีขาว มาประสบอุบัติเหตุ
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลือ เพื่อนำตัวสงโรงพยาบาลแม่สาย พบว่าหญิงคนเจ็บ ได้เดินเข้าไปข้างหลังร้านประดับยนต์ริมทาง บอกว่าขอเข้าไปตามหากระเป๋าเงินและโทรศัพท์ที่หาย ซึ่งทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ – กู้ภัย – เจ้าของบ้านงง.ไปตามๆกัน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุห่างจากร้านประดับยนต์ราว 50 เมตร แล้วกระเป๋าและโทรศัพท์จะตกหลังร้านประดับยนต์ได้อย่างไง อีกทั้ง เข้าเหยียบถังน้ำหลังร้านแตกกระจัดกระจาย
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัย เห็นหญิงบาดเจ็บ มีสภาพคางฉีกเป็นแผลเหวอะหวะกว้าง จึงพยายามจะนำตัวขึ้นรถกู้ภัยไปส่งรักษาโรงพยาบาล แต่หญิงบาดเจ็บ มีอาการมึนเมากับร้องหาขอพบคนโน้นคนนี้ หรือต้องการพบแม่ แล้วพยายามถามหากระเป๋า และโทรศัพท์ ไม่ยอมที่จะขึ้นรถกู้ภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยพยายามเกลี่ยกล่อมขอร้องให้รีบไปรักษาตัว
แต่หญิงบาดเจ็บ ไม่ยอมไปเดินวนไปมาและพูดจาซ้ำๆขอพบคนนั้นคนนี้อีก ไม่ยอมหยุดพูด ซึ่งในที่เกิดเหตุกู้ภัยสยามแม่สายพบเพียงจักยานยนต์ที่จอดล้มกลางถนนแต่ไม่พบสิ่งของมีค่าแต่อย่างใด สุดท้ายกู้ภัยขึ้นไปเปิดเบาะรถจักยานยนต์ของหญิงบาดเจ็บ ถึงกับโล่งอกพบระเป๋าโทรศัพท์สิ่งของที่เธอตามหา ซุกใต้เบาะรถ ทำให้ตำรวจและกู้ภัยสยามแม่สายโล่งใจ เล่นเอาเหนื่อยไป 2 ชม.ขอร้องให้หญิงประสบอุบัติเหตุไปรักษาตัวจนได้ แต่ไม่จบหญิงได้รับบาดเจ็บไม่ยอมขึ้นรภกู้ภัยอีก แต่ขอนั้นไปกับรถจักรยานยนต์ตนเองที่ท้ายรถตำรวจ จึงยอมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้แต่โดยดี
