เชียงราย-ตานกองทรายครั้งแรกมากที่สุด 84,000 กอง ศรัทธาแรงทำตลอดทั้งคืน ที่วัดดังเรื่องท้าวเวสสุวรรณให้โชคลาภ
ค่ำวันที่ 20 มิ.ย.2567 ที่วัดสันหลวงใหม่ ม.10 ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องท้าวเวสสุวรรณ ให้โชคลาภ ซึ่งวันนี้ทางศรัทธาญาติโยมชาวบ้านสันหลวงใหม่ และชาวไทใหญ่ กำลังขะมักเขม้น ก้มหน้าก้มตาช่วยกันคนละไม้คนละมือ กลางดึก นำทรายใส้แก้วพลาสติก แล้วนำไปกองบริเวณพื้นรอบๆวัด นำตุงปักไว้ด้านบน เพื่อเตรียมทำพิธีรุ่งเช้าวันที่ 21 มิ.ย จำนวนกองทรายที่ทำจำนวน 84,000 กอง ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวไปยังค้างอีกหมื่นกอง ถึงจะครบตามจำนวน ซึ่งทำให้บริเวณหน้าวัด ลานในวัดเต็มไปด้วยกองทรายปักตุงขาวโพลน ซึ่งทราบว่ามีศรัทธาญาติโยมช้าวบ้านในพื้นที่ และชาวไทใหญ่ที่เดินทางมาจาก ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ ร่วมทำกองทราย ตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พระวิชรธีรธรรม เตชธมุโม พระวัดสันหลวงใหม่ กล่าวว่า กองทรายดังกล่าวจำนวน 84,000 กอง เตรียมไว้ทำพิธีบูชาพุทธศาสนาพรุ่งงนี้ ซึ่งการทำกองทรายลักษณะนี้ เป็นประเพณีของชาวไทยใหญ่ที่ได้สืบทอดกันมา ซึ่งการนำกองทรายมากองลักษณะนี้ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เคยมีมา อีกทั้งการก่อกองทรายครั้งนี้ถือได้ว่าเป็น ขันติบารมี ให้ทุกคนมีส่วนร่วมและอดทนในการก่อกองทรายในครั้งนี้ ซึ่งคืนนี้ชาวบ้านจะร่วมกันทำให้เสร็จเพื่อเตรียมพิธีเช้าในวันพรุ่งนี้
พระวิชรธีรธรรม ยังกล่าวอีกว่า ครั้งแรกที่จะทำกันทางชาวบ้านคนไทยยังไม่เข้าใจในพิธีก่อกองทรายครั้งนี้ แต่ด้วยความศรัทธาและอยากมีส่วนร่วมจึงร่วมด้วยช่วยกันทำใกล้เสร็จ ซึ่งต่างจะได้รับบุญไปด้วยกัน ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีทางวัดจะนำทรายไปพัฒนาวัดต่อไป
ด้านนางแสง ชาวท่าขี้เหล็ก และนายโพธี รังสี ได้เผยถึงประเพณี ตานหรือทานกองทราย ในครั้งนี้ เป็นการสืบทอดประเพณีชาวไทใหญ่ ซึ่งตามตำนานไทใหญ่ มีว่าสมัยโบราณคนที่มีฐานะอยากจะทำบุญ จะขอชาวบ้านมาช่วยกัน หรือทางคนมีฐานะ นำทรายมากองเล็กยิ่งกองมากเท่าไรจะได้บุญมาก แต่ก็ทำกันคนละไม่กี่กอง แต่ครั้งนี้ถือว่ามากที่คนเองเคยทำมา ซึ่งทรายเหล่านี้สมัยโบราณ หากทำพิธีเสร็จก็จะนำไปก่อสร้างเจดีย์ ตามวัดต่างๆที่ห่างไกล
ซึ่งขณะเดียวกันที่วัดค่ำคืน ยังมีคนมาขอจุดธูปของโชคลาภท้าวเวสสุวรรณ ของวันที่ขึ้นชื่อ โดยมาญาติโยมขอหวยเดินทางมาตลอดทั้งวัน จะมาจุดและมาถามพระที่วัดอยู่บ่อยครั้ง จนพระไม่อยากตอบเลยคิดกุศโลบาย เขียนป้ายตัวเลขติดฐานด้านหน้าท้าวเวสสุวรรณ เพื่อหลีกเลี่ยงญาติโยมมาสอบถาม
