เชียงราย-ที่จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดอีกแห่ง ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก ทำให้แม่น้ำลำคลองลำเหมืองระดับน้ำสูงเอ่อล้นทะลัก เข้าบ้านเรือนไร่นาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ติดแม่น้ำลำคลอง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้มีทั้งส่งผลดี และผลเสียกับชาวบ้าน ซึ่งหมู่บ้านที่เพาะเลี้ยงปลาระบบปิด มีน้ำเข้าท่วมบ่อปลา ทำให้ปลาในบ่อหลุดออกเข้าไร่นาและลำเหมือง ทำให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้านต่างมุ่งเป้า นำอุปกรณ์หาปลาไปดักรอท้ายน้ำตั้งแต่เช้า ได้เงินเข้ากระเป๋าตุงนับพันบาท ส่วนเจ้าของบ่อปลาช้ำใจ
วันที่ 19 ส.ค.2567 ที่บริเวณบ้านศรีบุญยืน ม.10 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พบว่าท้ายหมู่บ้านมีชาวบ้านจำนวนนับ 100 คน ขับมอเตอร์ไซค์ขนอุปกรณ์หาปลาเช่น ยอ-แหหว่าน-เบ็ด มีเท่าไรขนมาให้หมด ตั้งแต่เช้า เมื่อทราบว่าน้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ่อปลากลางหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านได้ไปดักรอท้ายน้ำไหล พร้อมอุปกรณ์ ซึ่งหาได้ก็ชั่งกิโลขายกันตรงนั้น กิโลละ 30 บาท ไม่ว่าจะตัวเล็ก หรือตัวใหญ่ ส่วนใหญ่จะเป็นปลาไซส์ขนาดเท่ากัน 4-5 นิ้ว คือปลาที่หลุดออกจากบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งมีคนทราบว่าว่ามีคนแห่มาหาปลาบริเวณนั้นจำนวนมาก ก็จะพากันไปซื้อ สร้างรายได้ข้ามวันให้กับชาวบ้าน คนละไม่ต่ำกว่าพันบาท บางคนหาได้มากก็ขนใส่กระสอบไปทำปลาแดดเดียวไว้ทาน แบ่งญาติพี่น้อง แต่ก็มีคนหาปลาบางส่วนเลือกที่จะไปหามุมหาปลาเองนั่งทั้งวันได้ปลาพอไปทำอาหารกับครอบครัว ก็พอ
ด้าน น.ส.ณัฐรดา คร้ามกลาง ผู้ใหญ่บ้านศรีบุญยืน ม.10 ทราบว่า ได้เลี้ยงปลานิล 2 บ่อ ขนาด 6-9 ไร่ ซึ่ง 6 ไร่ได้เอาปลาออกแล้ว แล้วแต่ 9 ไร่ที่ยังไม่ได้เอาปลาออก ได้ปล่อยปลาจำนวน 50,000 ตัว ซึ่งหากขายจะได้กิโลกรัมละ 50-55 บาท หากขายหมดบ่อจะได้เงิน 900,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท ซึ่งเมื่อคืนเกิดในแม่น้ำคำเอ่อล้นเข้าท่วมไร่นาและบ่อปลา ทำให้ปลาที่อยู่ในบ่อยังไม่ได้เอาขึ้นมาขายประมาณ 80% ที่หลุดออกไป ทำให้ชาวบ้านที่ทราบ ได้นำอุปกรณ์มาดักปลาไม่ไกลจากบ่อปลาของตนเอง ไม่พอหาตรงนั้นชั่งขาย กันตรงนั้น เห็นมีชาวบ้านขายได้คนละ 1,700 บาท 1,800 บาท 2,200 บาท ซึ่งก็ไม่ว่ากันเมื่อมันเกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 
