เชียงราย-จากกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2567 เวลาประมาณ 19.53 น. ที่บริเวณบ้านดอยฮาง ม.3 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สกูปปี้ไอสีขาว มาร้องขอความช่วยเหลือ จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งหน้าร้านป้าแบล็คน้ำเงี้ยวหม้อดิน วิ่งไปขอความช่วยเหลือคนนั่งในร้าน ขณะที่รถฟอร์จูนเนอร์บรอนซ์ยังขับตามมาอย่างกระชั้นชิด
วันที่ 5 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงไปสอบถามนางเอ (นามสมมติ) ทราบว่า ในที่วันเกิดเหตุ ตนเองได้ขับจักรยานยนต์มาจากบ้านแม่ที่ตำบลแม่ยาว ได้ใช้เส้นเลี่ยงเมืองมาทางเรือนจำดอยฮาง จะมีเป็นช่วงที่ไม่มีบ้านคนแต่จะมีรถวิ่งผ่านไปมาน้อย ระหว่างขับออกจากมาบ้านแม่ยาว ซึ่งทุกเดือนได้ขับไปมาที่บ้านตามปกติแต่เดือนละหนึ่งครั้ง ระหว่างที่ขับกลับเข้าเมืองเชียงรายประมาณ 15 นาที เริ่มผิดสังเกตุว่ามีรถยนต์ติดตามมาตลอดทาง ซึ่งเธอตั้งสติได้หาวิธีที่สลัดรถที่ตามมาออก รอจังหวะที่ขับมาถึงทางโค้งได้ชะลอความเร็วทำให้รถที่ตามมาหักหลบไม่ทันต้องแซงเธอไป พอไปได้ประมาณ 100 เมตร ถึงทาง 3 แยกรถฟอร์จูเนอร์ที่ตามหลังมาได้จอดรถทาง 3 แยก ซึ่งตัวเธอเองจะต้องเลี้ยวซ้าย จึงรอให้รถฟอร์จูนเนอร์ไปก่อน แต่พบว่ามีคนสวมแมสก์เปิดประตูทางซ้ายวิ่งลงมาจะเข้าหาเธอ และคนที่นั่งประตูซ้ายก็เปิดลงมาวิ่งเข้าหาเธอทันที ทำให้เธอตั้งสติรีบเร่งเครื่องเบี่ยงออกไปทางแยกขวามือ เพราะทางขวามือจะมีหมู่บ้านคนเยอะ กระทั่งขับไปด้วยร้องขอความช่วยเหลือไปด้วย ไปได้ประมาณ 400 เมตรเห็นไฟหน้าบ้านเปิดจึงรีบจอดรถทิ้งกระโดดไปขอความช่วยเหลือคนที่นั่งในร้าน ได้พากันออกมาดู ฟอร์จูนเนอร์ยังไม่ละทิ้งตามมาดูอีกผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามบ้านที่หญิงสาวเอ (นามสมมติ) ได้เข้าไปร้องขอความช่วยเหลือ พบกับนายนิวส์ ได้เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ระหว่างนั้นตนเองได้นั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อนอยู่บริเวณโต๊ะหน้าบ้าน ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนร้องมาราว 100 เมตร ร้องขอความช่วยเหลือมาตลอดทางกระทั่งมาถึงที่หน้าบ้าน พบว่ามีหญิงวิ่งเข้ามาภายในบ้านอาการตัวสั่น จากนั้นได้เห็นรถฟอร์จูนเนอร์ขับตามมาด้วยความเร็ว ได้มองไปที่รถฟอร์จูนเนอร์พบว่ากระจกทั้งหน้าหลังเปิด มีชายสวมแมสก์จ้องมองเข้ามาที่ผู้หญิงจากการสอบถาม ป้าแบล็ค เจ้าของร้านน้ำเงี้ยว บ้านดอยฮาง 3 ตำบลดอยฮาง อายุ 60 ปี เปิดร้านมา 30 ปี เป็นเจ้าของร้านที่หญิงสาวร้องมาขอความช่วยเหลือ ทราบว่าตอนนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านเริ่มมีความหวาดกลัว และคอยบอกให้ลูกหลานที่ไปทำงาน กลับมามืดค่ำ ให้รีบกลับมาเช้าๆ และคอยระวังรถต้องสงสัยด้วย ซึ่งขณะเดียวกันชาวบ้านไม่ไว้ใจรถแปลกหน้า ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน จึงทำให้ชาวบ้านกลัว
ข่าวน่าสนใจ:
- ธุรกิจโก-ลกเริ่มหวั่น! นทท.ลดฮวบ-หลังมาเลย์ดีเดย์ 1 ธค.เข้า-ออกผิดกฎหมาย - จับทันที
- ชมคลิป-เตรียมเที่ยวงาน 10 ชาติพันธุ์ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในรูปแบบใหม่ ชมขบวนแห่กลุ่มชาติพันธุ์อลังการ
- ปิดตำนานนักเขียน "ตรี อภิรุม" ศิลปินแห่งชาติฯ เจ้าของผลงาน "นาคี"
- เตือนชาวบ้านอย่าตกเป็นเครื่องมือคนร้ายที่พยายามสร้างความขัดแย้งในพื้นที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: