เชียงราย-เจ้าหน้าที่ตำรวจ สปป.ลาว สืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมหาศาล ลัดเลาะริมโขงผ่านเข้ามาในเขตบ่อแก้ว ฝั่งตรงข้ามอำเภอเชียงของ
13 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา สปป.ลาว สกัดจับหนุ่มฉกรรจ์ขับรถทะเบียนกำแพงนครเวียงจันทน์ ขนยานรกบิ๊กล็อต ทั้งยาบ้า-เฮโรอีน เลาะชายแดนริมน้ำโขงสามเหลี่ยมทองคำขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร-ตำรวจ และฝ่ายปกครอง สกัดจับ-ตรวจยึดยาเสพติด ที่ทะลักเข้าชายแดนภาคเหนือได้อย่างมากมายมหาศาล โดยเฉพาะยาบ้า ยาไอซ์ และเฮโรอีน ล่าสุดเจ้าหน้าที่แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับสามเหลี่ยมทองคำ-แม่น้ำโขง ก็มีการตรวจยึดของกลางยาเสพติดจำนวนมากด้วยเช่นกันโดย ร.ท.วิทูน แก้วกันยา ได้รายงานผ่านและอีกหลายสื่อทั้งเฟซบุ๊ก-ไลน์ ฯลฯ ใน สปป.ลาว ว่าเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา กองบัญชาการทหารแขวงบ่อแก้ว ได้สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดรายใหญ่มาจากบ้านสีดอนมี เขตพัฒนาบ้านมอม เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ซึ่งอยู่เหนือสามเหลี่ยมทองคำขึ้นไปทางบ้านมอมติดแม่น้ำโขงทางเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว จึงได้จัดชุดปฏิบัติการจากสำนักงานป้องกันความสงบ สำนักงานป้องกันชาติ กองปฏิบัติงาน 034 (กองสืบข่าว) สมทบกับร้อยชายแดนที่ 122 บ้านมอม ออกสืบสวนติดตามเป้าหมาย กระทั่งเวลา 10.00 น.ของวันที่ 13 ม.ค.เจ้าหน้าที่ลาว ได้ตรวจพบรถยนต์เป้าหมายเป็นยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 1 คัน หมายเลขทะเบียน บข 5888 กำแพงนครเวียงจันทน์ ขับอยู่บนถนนระหว่างบ้านห้วยลม จะไปทางบ้านห้วยไคร้ เขตพัฒนาเมืองมอม แขวงบ่อแก้ว จึงได้เรียกตรวจสอบ พบชายทราบชื่อต่อมาคือนายทรงทอ อายุ 27 ปี อยู่บ้านท่าบู้ เมืองน้ำบาก แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว ขับรถมาตามลำพัง เมื่อตรวจสอบที่รถพบของกลางเป็นกระสอบเป้บรรจุยาเสพติดจำนวน 26 เป้ ภายในมียาบ้าจำนวน 2,833 มัด หรือ 5,764,000 เม็ด เฮโรอีนบรรจุในกระเป๋าเป้จำนวน 3 ใบ รวมจำนวน 90 แท่ง เงินสดสกุลไทยจำนวน 15,000 บาทสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างมาจากชายไม่ทราบชื่อมีอายุประมาณ 27 ปี อยู่บ้านสีดอนมี เขตเมืองมอม ให้นำยาเสพติดไปส่งที่หมายแลกกับเงินค่าจ้างจำนวน 200 ล้านกีบ แต่ยังไม่ได้รับเงินจนกว่าจะส่งเสร็จของแล้วเสร็จ ล่าสุดขณะนี้ เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้ควบคุมตัวนายทรงทอ ผู้ต้องหา พร้อมของกลางไปดำเนินคดีและพยายามขยายผลไปถึงหัวหน้าขบวนการตามกฎหมายแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: