เชียงราย-เตรียมทยอยเข้ากรุง ตำรวจได้กลิ่น เฝ้าติดตามดูพฤติกรรม คาหนังคาเขาขณะลำเลียงขึ้นปิ๊กอัพ เฉียด 3 ล้านเม็ด
เวลา 10.00 น. วันนี้ (21 มค.62) ณบริเวณลานด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ง, พลตำรวจโท ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.,พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม. 2 พร้อมคณะ แถลงข่าว การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ขณะระเบียงจากรถทัวร์โดยสารของบริษัทเชิดชัยทัวร์ ทยอยขึ้นสู่รถปิ๊กอัพ ก่อนลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 คน คือ 1. นายพร้อม รัตนกระจ่าง อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 66 หมู่ที่ 4 ต.พะเนา อ.เมือง จ. นครราชสีมา ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2. นายธนาธิป หรือ ผัน รัตนกระจ่าง อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 150 หมู่ที่ 4 อ.เมือง จ. นครราชสีมา ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน พร้อมทั้งนำของกลางยาบ้าจำนวน 2,828,000 เม็ด รถทัวร์โดยสารของบริษัทเชิดชัยทัวร์ สายกรุงเทพ-เชียงราย หมายเลขทะเบียน 10-1294 ปทุมธานี มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้บูรณาการสั่งการให้ดำเนินการรถการเผยแพร่การระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ชุมชน,สถานศึกษา,และสถานประกอบการ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ภายใน 3 เดือน โดยให้สกัดกั้นการลำเลียง และปฎิบัติการกดดันทุกรูปแบบ โดยมุ่งผลไปยังพื้นที่ชายแดนที่เป็นแหล่งช่องทางนำเข้า และแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จากผลปฏิบัติการที่ผ่านมา สามารถสกัดกั้นจับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก และมีการปฎิบัติการอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา
สำหรับในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.นำโดย พ.ต.อ.กฤษดา ศรีอิสาณ ผกก.3 บก.ปส.3 ได้สืบทราบว่าจะมีกลุ่มขบวนการผู้ค้าและลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยเครือข่ายของนายพร้อม รัตนกระจ่าง ซึ่งมีอาชีพขับรถทัวร์โดยสาร จะนำยาบ้าล็อตใหญ่ ซุกซนไปในรถทัวร์โดยสาร ที่ตนเองเป็นผู้ขับขี่เพื่อลำเลียงเข้ากรุงเทพฯ จึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และหน่วยกำลังในพื้นที่เพื่อวางแผนการจับกุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 นายพร้อม รัตนกระจ่าง ได้ขับรถทัวร์โดยสารของกลางคันดังกล่าว วิ่งมาจากทางจังหวัดพะเยา มุ่งหน้ามาทางจังหวัดเชียงราย จึงเฝ้าสังเกตุพฤติกรรม จากนั้นรถคันดังกล่าวได้เลี้ยวเข้าไปในสถานีขนส่งเชียงรายแห่งที่ 2 และขับออกมาตามถนนบายพาส-เลี่ยงเมืองเชียงราย ผ่านทางลอดหน้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และเลี้ยวย้อนกลับมา ก่อนพี่จะจอดรับยาเสพติด ริมถนนสายเลี่ยงเมือง และขับกลับมาจอดที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนพหลโยธิน ที่บ้านสันทราย เขตอำเภอเมืองเชียงราย จึงได้จัดชุดกำลังซุ่มสังเกตุพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด เห็นผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ทำการตรวจเช็คเครื่องยนต์ของรถทัวร์ ซึ่งอาจเสียขับไปต่อไม่ได้ และจอดอยู่ที่บริเวณดังกล่าวรวม 2 วัน ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ยังซุ่มเฝ้ารออยู่เพื่อรอรวบกระบวนการทั้งหมดให้ได้
ต่อมา วันที่ 20 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 01.45 น. พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สตราด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค-6604 เชียงราย วิ่งเข้ามาเทียบที่ข้างรถทัวร์ จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 พร้อมกับชายฉกรรจ์ที่มาในรถอีก 2 คน ได้ร่วมกันเปิดฝาที่เก็บของใต้รถทัวร์ ลำเลียงถุงกระสอบฟาง นับภายหลังได้จำนวน 17 กระสอบ ขึ้นบนรถกระบะคันดังกล่าวโดยใช้ผ้าใบคลุมปิดไว้ และชายทั้งสองคนได้ขับหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว จึงแบ่งกำลังกันเข้ารวคบตัวผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ ตรวจสอบที่ข้างรถทัวร์ ยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโนวา สีแดง หมายเลขทะเบียน ขวฉ-192 ของ นายพร้อม จึงยึดไว้เป็นของกลาง สอบสวนทั้งสองให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันค้ายาเสพติด นำตัวส่งพนักงานสอบสวนขยายผล
ส่วนอีกชุดหนึ่งได้ขับรถไล่ติดตามรถกระบะไปอย่างกระชั้นชิด ซึ่งได้ขับหลบหนี ไปในเส้นทางถนนพหลโยธินสายเก่า จนมาถึงทางแยกเข้าตำบลแม่ยาว ได้เลี้ยวหลบหนีเข้าไปในเส้นทางสายรอง เมื่อเห็นท่าว่าจะจนมุมเจ้าหน้าที่ เมื่อจวนตัวจึงเคยกหัวรถพุ่งเข้าไปในป่าข้างทาง ชายทั้ง 2 ได้เปิดประตูและวิ่งเข้าไปในป่าข้างทาง หลบหนีการจับกุมของเจ้านาทีไปได้ในที่สุด ตรวจสอบที่บริเวณท้ายกระบะ พบยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบฟางทั้ง 17 กระสอบ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
รอง ผบ.ตร.ยังกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อยับยั้งกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน และขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งข่าวขบวนการค้ายาเสพติดหากพบเห็นเบาะแส สามารถโทรศัพท์ไปได้ที่หมายเลข 1599 และศูนย์ 191 ของทุกจังหวัดได้ทันที
ข่าวโดย : เพทาย บ้านชี
