เชียงราย-กลุ่มทุนไทยเกาหลีทวงถามคืบหน้าถูกบุกปล้นถือครองกิจการในลาวได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ศรีเดช สุวรรณ รองสารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายในการทวงถามคดีที่มี นายวี คีบ็อก (Mr. Wee Kibok) หรือ “นายคีบ็อควี” สัญชาติเกาหลีได้ อายุ 47 ปี เป็นผู้ต้องหา ในคดียักยอกและหมิ่นประมาท ตามหมายจับ ศาลจังหวัดเชียงราย
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 พ.ค.2562 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย นายอรรถสิทธิ์ คุณูปถัมภ์ ทนายความบริษัท AAC Green City เจ้าของสัมประทานโครงการนาคราช นคร ตั้งอยู่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 บ้านเวียงใหม่ – บ้านดอน เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหลวงพ่อจันกะยึน โอ เป็นตัวแทนนักลงทุนชาวเกาหลี(ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่าน) ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ศรีเดช สุวรรณ รองสารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายในการทวงถามคดีที่มี นายวี คีบ็อก (Mr. Wee Kibok) หรือ “นายคีบ็อควี” สัญชาติเกาหลีได้ อายุ 47 ปี เป็นผู้ต้องหา ในคดียักยอกและหมิ่นประมาท ตามหมายจับ ศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 44/2561 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันเมื่อวันนี้ 26 เมษายน 2562 เวลา 12.02น. ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2560 นายคีบ็อค วี และพวกได้วางแผน ให้การเท็จแก่เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว เพื่อจะให้พวกตนสามารถนำกำลังอาวุธสงครามเข้ายึดโครงการนาคราชนคร ในสปป.ลาว ที่คนไทย, เกาหลี ประเทศแถบทวีปแอฟฟริกาและคนต่างชาติได้ร่วมลงทุน โดยนาย คีบอค ใช้วิธีปล้นและยึดสัมปทานของคนไทยเพื่อจะนำสัมปทานไปขายต่อให้กับผู้มีอิทธิพลทางแถบห้วยทราย ต่อมาทางศาลจังหวัดเชียงรายได้ออกหมายจับดังกล่าว ทำให้นายคีบ็อควี หลบหนีอยู่ใน สปป.ลาว โดยอาศัยอิทธิพลจากผู้มีอำนาจบางคนบางกลุ่มเรื่อยมาทำให้ นายอรรถสิทธิ์ ทนายความตัวแทนบริษัท AAC Green City ยื่นเรื่องขอหมายจับจาก INTERPOL หรือ ตำรวจสากล ซึ่งเป็นองค์การที่เกิดจากความพยายามร่วมมือกันในทางระหว่างประเทศเกี่ยวกับกิจการตำรวจ เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือทุกองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ที่มีภารกิจในการป้องกันหรือว่าปราบปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศ สำนักงานใหญ่ของอินเตอร์โปล ตั้งอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ในขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแขวงบ่อแก้วและเวียงจันทน์เพื่อไล่ล่าจับกุมตัวนายคีบอควี โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตรวจของ สปป.ลาวเป็นอย่างดีซึ่งสามารถจับกุมตัวได้ในโรงแรมในย่านนครเวียงจันทน์ ราวกลางเดือนที่ผ่านมารวมระยะเวลา1 ปี 4 เดือน ที่นายคีบอค วี ได้หลบหนีไปอยู่ใน สปป.ลาว หลังจากกระทำความผิดฐานฉ้อโกง และยักยอกสัมปทานโครงการนาคราช นคร และทรัพย์สินต่าง ๆ ในโครงการดังกล่าว โดยนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างประเทศได้ร่วมกันลงทุนโครงการนาคราช นคร ยึดครองพื้นที่สัมปทานทั้งหมด 1,200 ไร่ ประกอบไปด้วยกิจการโรงแรม ดิวตี้ฟรี ภัตตาคาร ปั้มน้ำมัน สถานบันเทิงครบวงจร แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ และกิจการโลจิสติก ตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบันคิดเป็นมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาทที่คนไทยและคนต่างชาติได้ลงทุนบุกเบิกมาช้านานแล้วหลวงพ่อจันกะยึน โอ หรือ”หลวงพ่อแดซอง”เป็นตัวแทนนักลงทุนชาวเกาหลี (ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่าน) กล่าวว่า ในวันที่นาย คีบอค วี และพวกจึงได้ร่วมกันวางแผนกระทำการปล้นและยักยอกสัมปทาน หุ้นและทรัพย์สินต่าง ๆ ในบริษัทโดยการใช้กำลังคนแต่งตัวคล้ายทหารลาวพร้อมอาวุธสงครามครบมือบุกเข้ามาในโรงแรมนาคราช ในขณะนั้นตนเองและนักลงทุนชาวเกาหนีใต้ยังพำนักอาศัยอยู่ โดยในขณะกลุ่มติดอาวุธกำลังบุกเข้ามามีพนักงานโรงแรมท่านหนึ่งตะโกนให้ตนเองหนีออกจากโรงแรม เพราะเกรงว่าหลวงพ่อจะถูกทำร้าย ตนเองเลยออกวิ่งด้วยเท้าเปล่าเพื่อขึ้นรถประจำทางของลาวข้ามมายังฝั่งไทยโดยปลอดภัย ตนเองไม่มีทรัพย์สินมีค่าและพาสปอตติดตัวมาด้วย จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงของทราบและเดินทางมาแจ้งความดังกล่าว ส่วนนักลงทุนชาวเกาหลีอีก 3-4 คนยังคงติดอยู่ในโรงแรมและถูกปล่อยตัวกลับประเทศเกาหลีใต้ หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น 3 วัน ขณะเดียวกันพนักงานที่เคยมีอยู่กว่า 40-50 คน ก็ต้องข้ามมาอยู่ที่โรงแรมของบริษัทในฝั่ง อ.เชียงของ จ.เชียงราย และทราบว่ากิจการนาคราชต้องปิดตัวลงนับตั้งแต่วันนั้น หากย้อนไปพบว่านายคีบ็อควีและกลุ่มติดอาวุธมีพฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่เอาทรัพย์สิน เงินสด และพาหนะต่าง ๆ ทั้งหมดในโครงการ พร้อมกับไล่พนักงานคนไทย และคนลาวที่เป็นพนักงานของนักลงทุนคนไทยออกหมด สำหรับความเสียหายของนักลงทุนเกาหลีใต้จำนวน 10 ท่าน รวมกันนับ 100 ล้านบาทนายอรรถสิทธิ์ ทนายความตัวแทนบริษัท AAC Green City เจ้าของสัมประทานโครงการนาคราช นคร กล่าวว่า ตนเองเดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดียักยอกและหมิ่นประมาทของนายคีบ็อกวี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งนายคีบอค วี ยอมรับว่าเขาเป็นผู้วางแผนร่วมกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในการกระทำนี้ทั้งหมด โดยขณะนี้ทางฝั่ง สปป.ลาวยืนยันว่าได้ควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไว้แล้วเมื่อราวกลางเดือนที่ผ่านมาแต่มาถึงขณะนี้ยังไม่มีการส่งตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในฝั่งไทย ทำให้ตนเองเกรงว่าจะไม่รับความเป็นธรรมจึงมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยให้ช่วยเร่งรัดคดีและติดตามประสานฝั่ง สปป.ลาวเพื่อขอตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีในฝั่งไทยด้วย
ข่าวโดย : คุณณรมณ ภัทรทองศักดิ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- ปป.แม่สายทานมูมมามจนลืมตัว เรียกเก็บเงินแบบไม่อาย แต่ต่อรองราคาได้
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
- ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เชิญส่วนราชการ เอกชน สื่อมวลชน 50 คน เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนกระตุ้นการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจในชุมชน อย่างยั่งยืน
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: