การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เปิดตัวโครงการท่องเที่ยวไทย”แอ๋วเหนือครั้งใหม่ไม่เหมือนเดิม”เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีและวิถีชีวิตผู้คนที่หลากหลายทางภาคเหนือ โดพมุ่งเป้าในกลุ่มผู้บริโภค 3 กลุ่มคือ วัยเก๋า วัย GEN Y และกลุ่มผู้หญิงโดยทางททท.สำนักงาน 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้นำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวผ่านโลกโซเชียลมีเดียร์เพื่อจูงใจคนไทยให้ท่องเที่ยวไทย ในขณะที่กลุ่มภาคเอกชนได้มองเห็นโอกาสในการเชื่อมโยง”ภาคเหนือตะวันออก”ที่ประกอบด้วยจังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่และน่าน กับ เมืองมรดกโลกอย่างหลวงพระบาง ผ่านเส้นทาง ทางน้ำ(แมน้ำโขง) ขณะที่ทางบก เริ่มต้นที่จังหวัดเชียงราย ผ่าน
จังหวัดพะเยา สู่ จ.น่าน ออกทางด่านห๋วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ เข้า สปป.ลาว ที่ด่านน้ำเงิน เยี่ยมชมโรงงานไฟฟ้าเมืองหงสา เดินทางไปยังเมืองหงสา เข้าแขวงไชยะบุลี ข้ามแม่น้ำโขง สะพานบ้านห้วยเดื่อ มุ่งหน้าผ่านเมืองเชียงเงิน ถึงหลวงพระบาง ซึ่งตลอดเส้นทางสายนี้เป็นถนนลาดยางที่เราจะได้สัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีและวิถีชีวิตผู้คนลาวได้ตลอดเส้นทางตลอดระยะทาง 555 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางด้วยรถส่วนตัวประมาณ 6 ชั่วโมง แต่หากจุดเริ่มต้นอยู่ที่ จ.น่านระยะทางจากด่านห้วยโก๋นไปยังหลวงพระบางเพียง 249 กิโลเมตร ใช้เวลาเกินทางด้วยรถส่วนตัวประมาณ 4 ชั่วโมงแต่เป็นรถโดยสารใช้เวลา 6 ขั่วโมง เมื่อเยี่ยมชมเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง
เสร็จแล้ว เราสามารถเดินทางกลับเชียงรายโดยมุ่งหน้าขึ้นตอนเหนือของลาวไปยังแขวงอุดมไช ไปเมืองนาหม้อ นาเตย แวะแขวงน้ำทา มุ่งหน้าสู่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ด้วยถนน R3A และผ่านด่านเชียงของ จ.เชียงรายด้วยสะพานมิตรภาพไทย แห่งที่ 4 ระยะทางจากหลวงพระบาง มาจังหวัดเชียงรายระยะทาง 464 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางรวมระยะทาง 1,019 กิโลเมตร นายพงษ์ทร ชยาตุลชาต รองประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย/ผู้อำนวยการประสานงานธุรกิจและการท่องเที่ยวอาเซียนไทย ลาว จีน เวียดนามและเมียนมาร์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวหลวงพระบางถือเป็นมนต์เสน่ห์ของเมืองหลวงพระบางที่เป็นเมืองมรดกโลก ที่มีจุดขายด้านอารยธรรมและเชิงวิถีชีวิตของผู้คน ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หลั่งไหลเดินทางมายังประเทศ
ไทยเมื่อท่องเที่ยวในประเทศไทยเสร็จแล้วก็จะมีจุดหมายปลายทางต่อไปยังคือ หลวงพระบาง สปป.ลาวซึ่งจะเห็นว่าการท่องเที่ยวในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงจะเชื่อมโยงประเทศไทย ลาว เวียดนาม จีนและพม่าเข้าด้วยกันโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโดยหากด่านบ้านฮวก อ.ปูซาง จ.พะเยา เปิดเป็นด่านถาวรก็จะประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังเมืองหลวงพระบางเพราะเราสามารถไปท่องเที่ยวหลวงพระบางแบบไป-กลับได้ภายในวันเดียว ซึ่งจะทำให้เราได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืนที่จะดึงเงินเข้าประเทศจากการท่องเที่ยว
ด้านนายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงรายกล่าวว่า ปัจจุบัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีนโยบายท่องเที่ยวภายในประเทศแต่ก็ไม่ทิ้งการท่อง
เที่ยวเชื่อมโยงประเทศในลุ่มน้ำโขงที่ผ่านมาเน้นไปที่การเดินทางทางน้ำผ่านแม่น้ำโขงแต่ปัจจุบันทางบริษัทขนส่งได้มีการเดินรถประจำทางสู่เมืองหลวงพระบางแล้วแต่ใช้เวลาเดินทางนานถึงแม้ว่าถนนจะลาดยางแล้วก็ตามซึ่งขณะนี้ทางภาคเอกชนต่างรอคอยเส้นทางจากด่านบ้านฮวก ไปยังเมืองมรดกโลกหากเส้นทางนี้เปิดอย่างเป็นทางการจะช่วยให้การท่องเที่ยวได้รับความนิยมอีกหนึ่งเส้นทาง
จักรภัทร ข่าว/ภาพ
ข่าวโดย:จักรภัทร แสนภูธร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: