เชียงราย-ตำรวจเชียงแสนพร้อม นรข ตรวจจับรถบรรทุกไม้ซุง จนทำให้กรมป่าไม่ส่งคนลงพื้นที่หาข้อมูลเท็จจริง สืบขยายผลเอาผิดคนมีสีที่ร่วมขบวนการมาลงโทษ
เมื่อเวลา 13.00น. ของวันที่ 2 เม.ย.2561 สำนักงานกรมป่าไม้ ไม่นิ่งนอนใจมีคำสั่งด่วน ส่งว่าที่ร้อยตรี วรัท ตุลยธำรง นิติกรชำนาญการ สำนักกฎหมาย กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบคดี ที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย คดีจับรถบรรทุก 10 ล้อ 2 คัน ขนท่อนซุงไม้ประดู่ ไม่มีตราประทับจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และใบขนย้าย โดยเจ้าของรถได้ให้การว่าขนออกมาจากหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ ชร13 บ.แซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เชิญหน่วยงานอื่นๆ เข้าจับไม้ประดู่แปรรูปใหม่ ขนาดใหญ่ จำนวน 111 ท่อน ไม่มีตราประทับของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ในสถานที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ ชร.13 บ.แซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
โดยอ้างว่าตอนกลางคืน ไม่ทราบว่าใครเอาไม้มาทิ้งไว้ในหน่วยงานป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ชร.13 บ.แซว อ.เชียงแสน แต่จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เชียงแสนทราบว่าเป็นขบวนเดียวกับรถบรรทุกไม้ซุงที่ถูกจับได้ว่าที่ร้อยตรี วรัท ตุลยธำรง นิติกรชำนาญการ สำนักกฎหมาย กรมป่าไม้ ร่วมกับนายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปราม ที่ 3 ภาคเหนือ สำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และนายเจษฎา เงินทอง ผู้อำนวยการส่วนจัดการที่ดินป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย ลงพื้นที่อำเภอเชียงแสนเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงเร่งด่วนต่อมาแหล่งข่าวในพื้นที่อำเภอเชียงแสนให้ข้อมูลว่าที่ร้อยตรีวรัท ตุลยธำรง ถึงขบวนการลำเลียงไม้ในเขตอำเภอเชียงแสน จะมีกลุ่มลักลอบลำเลียงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ทำเป็นขบวนการใหญ่ โดยมีหน่วยงานมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำเป็นขบวนการ มีการเคลียร์กันอย่างเป็นระบบในยอดเงินสูงหลักล้าน เพื่ออำนวยความสะดวกการเปิดเส้นทางทางว่าที่ร้อยตรี วรัท ตุลยธำรง นิติกรชำนาญการ สำนักกฎหมาย หลังจากได้รับมอบหมายจากกรมป่าไม้ รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวในการเชื่อมโยงถึงขบวนการ เตรียมรวบรวมนำหลักฐานเอกสาร เอาความผิดผู้ที่เกี่ยวในขบวนการ รวมไปถึงหน่วยงานมีสี ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
ต่อมาเวลา 15.00น. ว่าที่ร้อยตรี วรัท ตุลยธำรง นิติกรชำนาญการ สำนักกฎหมาย กรมป่าไม้ เดินทางตรวจสอบเก็บข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่มีการลำเลียงไม้ผ่าน พร้อมตรวจสอบเก็บข้อมูลในเชิงลึกคดีไม้ในเขตหน่วยป้องรักษาป่า ชร.13 เพื่องส่งถึงอธิบดีกรมป่าไม้
ข่าวน่าสนใจ:
เพื่อดำเนิดการตามคณะรัฐมนตรี ที่มีมติเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 ที่กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ ของ คสช. รายงานผลการสืบสวนสอบสวนข้อมูลข้อเท็จจริง ส่งสำนักงานกรมป่าไม้และคณะรัฐมนตรีทราบภายใน 7 วัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: