เชียงราย-สารวัตรสืบแม่จันตาไว ขับรถสวนรถคนร้าย ย้อนตามใช่คนร้ายที่ก่อเหตุ 2 ครั้ง ในเดือนเดียว
เมื่อเวลา 15.00น.วันที่ 27 กันยายน 62 ขณะที่ พ.ต.ท.กิตติภูมิ กันจินะ สว.สส.สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ขับรถเพื่อจะกลับบ้านพักที่สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน มาตามถนนรอบเวียง ในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ผ่านหน้าโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม พบชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีขาวแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สะพายกระเป๋าสีน้ำตาล ใส่หมวกคลุมหน้า สวนทางมา ลักษณะคล้ายคนที่ได้รับแจ้งว่าเป็นคนก่อเหตุชิงทรัพย์ของ นางสาวพิมพรรณ คำไว อายุ 20ปี ขณะที่นางสาวพิมพรรณ วางกระเป๋าเงินไว้ในตะกร้าหน้ารถ จยย. ขี่อยู่บนถนนริมโขง อ.เชียงแสน เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา จึงวกรถขับตามหลัง รถต้องสงสัยได้เลี้ยวไปทางถนนข้างป่าช้า อ.เชียงแสน ซึ่งเป็นถนนค่อนข้างเปลี่ยว ไปจอดอยู่ริมถนนข้างป่าช้า คาดว่าจะมาสังเกตเหยื่อที่เป็นผู้หญิงที่ขับขี่รถมาคนเดียว เพื่อจะก่อเหตุชิงทรัพย์อีก พ.ต.ท.กิตติภูมิ จึงจอดรถแกล้งถามทางเพื่อต้องการดูใบหน้าชัดๆ จากนั้นโทรแจ้ง ร.ต.อ.อดุลย์ รักษาดี รองสว.สส.สภ.อ.เชียงแสน พร้อม ร.ต.อ.วิศิษฐ์ หินทอง รองสว.สส. ร.ต.อ.อุดม ศรีจันตา ด.ต.ระพีพงษ์ กันทิพันธ์ และ ด.ต.วิรัตน์ ปาละมะ รุดไปตรวจสอบทันที
พอกำลังเจ้าหน้าที่มาถึง พบชายจอดรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีขาวแดง ไม่ติดแผ่นป้าย ริมถนนข้างป่าช้า อ.เชียงแสน ม.6 ต.เวียง เข้าตรวจค้นพบป้ายทะเบียน คมบ 742 เชียงราย ถูกถอดเก็บไว้ใต้เบาะรถ พบหมวกผ้าใบลายพรางทหาร แบบมีคลุมไหล่และบังใบหน้า และหมวกกันน็อค นำตัวมาสอบสวนทราบชื่อว่านายประเสริฐ ชมพูเมืองชื่น อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 71 ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ซึ่งนายประเสริฐ ไม่ยอมรับว่าเป็นคนร้ายที่ขี่รถเข้าประกบแล้วคว้ากระเป๋าเงินของนางสาวพิมพรรณไป เจ้าหน้าที่ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพตามจุดต่างๆ มาให้นายประเสริฐดู บอกไม่ใช่รถตนแน่ รถจยย.ตนขี่ในวันนี้เป็นรถคนละคันคนละสี จากหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่านายประเสริฐเคยใช้รถจยย.ซูซุกิสีแดง ร.ต.อ.อดุลย์ ได้สอบสวนนายประเสริฐ จนนายประเสริฐยอมรับว่าเป็นคนก่อชิงทรัพย์ หลังก่อเหตุชิงทรัพย์ได้นำรถจยย.คันก่อเหตุไปขายให้คนในหมู่บ้านเดียวกัน เอาเงินในกระเป๋า 200 บาทไป แล้วนำกระเป๋าเงินสีน้ำตาล ไปซ่อนไว้ซอกกิ่งไม้ของต้นสัก ทางไปบ่อน้ำทิพย์ หลังวัดจอมกิตติ ม.6 ต.เวียง เจ้าหน้าที่ตามไปยึดรถซูซูกิคันที่นายประเสริฐนำไปขาย และนำตัวนายประเสริฐ ไปชี้จุดที่ซ่อนไว้ ภายในกระเป๋ายังพบเอกสารหลายอย่าง และไปเอาเสื้อตัวที่สวมวันก่อเหตุที่บ้านพัก บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายประเสริฐไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีนางสาวพิมพรรณเจ้าของกระเป๋าเงิน ติดตามดูการทำแผน
ต่อมาประมาณ 22.00 น. ร.ต.อ.สมศักดิ์ ตันติ๊บ พนักงานสอบสวนเวร ได้สอบสวนและซักถามถึงเหตุที่มีการชิงทรัพย์กระเป๋าถือ นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน มาเที่ยวกับสามี ที่วัดป่าสัก ต.เวียง เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งนายประเสริฐได้ให้การรับว่าเป็นคนก่อเหตุชิงทรัพย์กระเป๋าถือของนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนมากับคณะทัวร์ ตนได้ขี่รถจยย.วนดู 3 รอบ พอเห็นนักท่องเที่ยวหญิงจีน ชวนสามีเดินแยกกลุ่มเดินไปชมอีกที่ ตนได้จังหวะขี่จยย.เข้าประชิดกระชากกระเป๋าติดมือไป จนนักท่องเที่ยวจีนล้มลง ได้เงินจีน 3 พันหยวน เงินบาท 1 พันกว่าบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แบตสำรอง 1 อัน และได้นำเงินหยวนไปแลกที่ฝั่ง อำเภอท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร.ต.อ.อดุลย์ รักษาดี รองสว.สืบสวน กล่าวว่าผู้ต้องหารายนี้ คาดว่าคงจะมาจอดรถคอยหาเหยื่อ เพื่อก่อเหตุอีก เพราะสถานที่นายประเสริฐจอดรถเป็นสถานที่ใกล้วัดป่าสัก ซึ่งเป็นโบราณสถานมักมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวชมเป็นประจำ และติดป่าช้า เป็นถนนที่คนใช้เส้นทางผ่านน้อย และมีเส้นทางหลบหนีได้หลายเส้นทาง นายประเสริฐอ้างว่า ที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ทั้ง 2 ครั้ง เพื่อต้องการนำเงินไปใช้หนี้เงินที่กู้ยืมมา 3 ราย
