เชียงราย-กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อมดอยยาว-ดอยผาหม่น-ภูชี้ฟ้า ออกมาคัดค้านการประกาศเขตพื้นที่ดอยยาว ดอยผาหม่น และภูชี้ฟ้า เป็นอุทยานแห่งชาติดอยยาว-ดอยผาหม่น-ภูชี้ฟ้า
วันที่ 24 ต.ค.2562 ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อมดอยยาว-ดอยผาหม่น-ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย โดยการนำของนายชัยยุทธ อนุสรณ์ศิลปะ ประธานเครือข่ายฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เพื่อคัดค้านการประกาศเขตพื้นที่ดอยยาว ดอยผาหม่น และภูชี้ฟ้า ดังกล่าวให้เป็นอุทยานแห่งชาติดอยยาว-ดอยผาหม่น-ภูชี้ฟ้า โดยเครือข่ายให้เหตุผลว่าปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขต อ.เทิง อ.ขุนตาล อ,เชียงของ และ อ.เวียงแก่น รวม 33 หมู่บ้านซึ่งหากว่ามีการประกาศเกิดขึ้นก็อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านทั้งด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกินได้ เนื่องจากพื้นที่เคยเป็นไปตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 เรื่องนโบายต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ มีผลทำให้กองกำลังคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเขตงานที่ 8 บนพื้นที่ดังกล่าวยุติการสู้รบด้วยอาวุธและหันมาร่วมพัฒนาชาติไทยภายใต้พันธะ 6 ข้อคือ
1. รัฐต้องรับรองความปลอดภัยผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทุกคน
2. รัฐต้องพิจารณาให้สัญชาติไทยแก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทุกคน
3. รัฐต้องพัฒนาเส้นทางคมนาคมเข้าทุกหมู่บ้าน ที่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยอาศัยอยู่
4. รัฐต้องจัดสรที่ดินทำกินให้กับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ออกเอกสารสิทธิที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน และห้ามมิให้ใช้กฎหมายอย่างเดิมมาจัดการซ้ำรอยอีก
5.รัฐต้องส่งเสริมค้นการศึษา เช่น สร้างโรงเรียนให้ทุกหมู่บ้าน ให้บุตรหลานเข้าโรงเรียนและศึกษาต่อในเมืองได้
6. รัฐต้องจัดตั้งสถานีอนามัย และสร้งกองทุนยาให้แก่หมู่บ้านข้องผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
ซึ่งพบว่าที่ผ่านมาทางรัฐบาลนำโดยกองทัพภาคที่ 3 ได้ดำเนินการแล้วเป็นส่วนใหญ่ยกเว้นเรื่องการจัดสรรที่ดินทำกินที่ยังไม่สมบูรณ์ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้จัดแบ่งเขตที่ดินให้ที่ดินทำกินส่วนหนึ่งในเขตป่าสงวนแห่งชาติประมาณ 114,000 ไร่ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังเข้าจับกุมดำเนินคดีผู้ที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ดอยยาว ดอยผาหม่น และภูชี้ฟ้า อยู่อีกทำให้ปี 2551 ชาวบ้านได้ตั้งเป็นสภาองค์กรชุมชน ต.ตับเต่ำ อ.เทิง ต.ยางชอม อ.ขุนขาล และ ต.ปอ อ.เวียงแก่น เพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหา แต่ต่อมาหน่วยงานภาครัฐก็พยายามจะนำพื้นที่ดังกล่าวไปสู่การเป็นเขตอุทยานแห่งชาติดอยยาว-ดอยผาหม่น-ภูชี้ฟ้า อีกจึงทำให้ชาวบ้านเกรงว่าจะเดือดร้อนหนักกว่าเดิมอีกหเพราะจะกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นอุทยานแห่งชาติมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวดละมีอัตราโทษสูงต่อผู้เข้าไปภายในเขตดังกล่าว
นอกจากนี้เครือข่ายผลักดันให้ จ.เชียงราย ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนา ดอยยาว-ดอยผาหม่น (ยุทธศาสตร์ภูขี้ฟ้า) จนสำเร็จในปีงบประมาณ 2563 นี้ แต่ปรากฎว่าจนถึงปัจจุบันคณะกรรมการยังไม่มีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเลย ทำให้เครือข่ายเห็นว่าไม่ได้รับการเอาใจใส่และทางจังหวัดยังกลับตั้งคณะทำงานตรวจสอบและติดตามการสำรวจพื้นที่ป่าเพื่อเตรียมจะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติทั้ง 4 อำเภอคือ อ.ขุนตาล เทิง เชียงของ และเวียงแก่น โดยที่ไม่ได้ให้ความรู้หรือรับฟังความเห็นจากชาวบ้านอีกด้วย สร้างความวิตกกังวลกับชาวบ้านอย่างมาก
ดังนั้นจึงได้มีการยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้ทางราชการคืนผืนป่าที่ทำกินเขตดอยยาว-ดอยผาหม่น-ภูชี้ฟ้า ให้แก่ราษฎรดังเดม และขอให้เร่งรัดจัดสรรปฏิรูปที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินโตยออกเอกสารรับรองสิทธิให้ทุกแปลงภายใต้ระบบป้องกันการเปลี่ยนแปลงผู้มีสิทธิครอบครองอย่างเหมาะสม รวมทั้งขอให้ชะลอการบังคับใช้หรือแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พศ.2507 ด้วย
ล่าสุดทางนายประจญได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้ารับหนังสือของชาวบ้านเอาไว้ และได้จัดประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารศาลากลาง จ.เชียงราย ร่วมกับแกนนำชาวบ้านเพื่อหารือสำหรับหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อไป.
