เชียงราย-รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ในการเข้มงวดตรวจสอบสินค้า การนำเข้า-ส่งออกพืชผัก ผลไม้จากจีนเข้าไทยและ ไทยไปยังจีนตอนใต้
วันที่ 1 พ.ย.62 ด่านตรวจพืช ด่านศุลกากรเชียงของ น.ส.มนัญญา ไชยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายพร้อมมอบกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าผู้ปฏิบัติงานบริเวณด้านศุลกรเชียงของร่วมถึงเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตร โดยมีนายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ นายวุฒิพงษ์ ท้าวฬา ผู้ช่วยด่านศุลกากรเชียงของ และผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับโดย น.ส.มนัญญา ได้ตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของด่านตรวจพืชเชียงของ ด่านศุลกากรเชียงของ ในการเข้มงวดการนำเข้า-ส่งออกพืชผัก ผลไม้จากจีนเข้าไทยและ ไทยไปยังจีนตอนใต้
โดยทางรัฐมนตรีช่วยขอให้เจ้าหน้าที่ทำการเปิดตู้คอนเทรนเนอร์รถตู้คอนเทรนเนอร์ที่กำลังนำพืชผักจากจีนเข้าประเทศไทยผ่านทางด่านเชียงของออกดูซึ่งพบพืชผัก อันประกอบไปด้วยบล็อคเคอรี่, กระหร่ำปลี, ถั่วลันเตาหวาน, ผักชี ถูกบรรจุไว้ในกล่องโฟมก่อนอัดด้วยน้ำแข็งป่นเพื่อเป็นการรักษาความสดของพืชผักดังกล่าว โดยรัฐมนตรีได้สอบถามขั้นตอนพิธีการในการตรวจสอบผักผลไม้ทั้งหมดก่อนเข้าประเทศไทยว่าได้มีการขั้นตอนการตรวจสอบอย่างไรว่ามีสารต้องห้าม หรือมีสารปนเปื้อนที่มีผลร้ายต่อผู้บริโภคตกค้างอยู่หรือไม่อย่างไรซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ด้านตรวจพืชได้ชี้แจ้งว่าจะมีการนำตัวอย่างผักผลไม้ที่ผ่านเข้าออกทางช่องทางนี้มาทำการตรวจตามขั้นตอนปฏิบัติคือสังเกตด้วยตา หากพบว่ามีการเน่าเสีย หรือมีแมลงกัดแทะจะถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าประเทศพร้อมกับส่งกลับผักผลไม้สู้ต้นทาง
ส่วนกรณีที่จะตรวจหาสารปนเปื้อนและ สารต้องห้ามทั้งสามตัวที่มีการแบรนด์นั้นต้องส่งตัวอย่างผักผลไม้ไปตรวจที่ด่านตัวพืชเชียงแสน ที่มีห้องแล็ปในการตรวจเช็คเนื่องจากที่ด่านตรวจพืชเชียงของไม่มีแล็ปในการตรวจพิสูจน์นั้นเอง
น.ส.มนัญญา กล่าวว่า วันนี้ที่เดินทางมาให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกับกรมวิชาการมาดูความพร้อมความเรียบร้อยISO GIP และสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีก้าวทันโลกหากเราไม่พร้อมก็ไม่สามารถเปิดเป็นครัวโลกได้ ไม่ว่าการส่งออกและนำเข้าซึ่งในแต่ละปีประเทศไทยจะมีการนำเข้าพืชผักจำนวนมากจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน การตรวจสอบพืชผักได้เพียงไม่ี่ร้อยชนิดเนื่องจากข้อจำกัดทางงบประมาณซึ่งต้องมีการเพิ่มงบประมาณในส่วนการตรวจพืชให้มากขึ้นและถี่ขึ้นและทำห้องแล็ปให้ได้มาตรฐานเพื่อตรวจพืชผักนำเข้าและส่งออกหากเรามีห้องแล็ปที่ทันสมัยจะสามารถตรวจสอบได้แม่นย้ำหากพบว่าพืชผักนำเข้าโดยเฉพาะที่มาจากจีนเมื่อมีการตรวจพบสารปนเปื้อนที่มีผลร้ายต่อสุขภาพของประชาชนของเราก็จะแจ้งทางจีนเพื่อให้ทำการปรับปรุงแก้ไขก่อนส่งพืชผักผลไม้ที่ตรวจพบกลับไปยังประเทศต้นทางทันทีทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในประเทศ 
ส่วนปัญหาห้องแล็ปตรวจสอบพืชผลทางการเกษตรที่ด่านเชียงของไม่มีทางกระทรวงมีโครงการจะทำห้องแล็ปใหม่ในปี 2565 แต่เมื่อลงพื้นที่เราได้พบเห็นปัญหาจึงความจำเป็นจะเร่งให้ห้องแล็ปใหม่ให้มีการแล้วเสร็จในปี 2563 จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังสำนักงานด่านตรวจพืชเชียงของแห่งเก่า ต.เวียง อ.เชียงช่อง ที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อตรวจดูความพร้อมหากมีการใช้ทำเป็นแล็ปตรวจพืชผัก ผลไม้ ในอนาคตอันใกล้นั้นเอง
ด้านนายวุฒิพงษ์ ท้าวหา ผช.ด่านศุลกากรเชียงของ เปิดเผยว่า การนำเข้าส่งออกพืชผักผลไม้ทางด่านนี้เมื่อปีที่ผ่านมามีจำนวน 180,000 ตัน เป็นผลไม้ประเภทมังคุด ทุเรียน กล้วยฯลฯ ลำไย 9,400 ต้น มูลค่าส่งออก 13,000 ล้านบาท นำเข้า 2,000 ล้านบาท ปัญหาการลักลอบนำเข้าผักผลไม้จากประเทศจีไม่พบปัญหาเพราะส่วนใหญ่นำเข้าตามช่องทางปกติ หากจะมีการลักลอบจะ
เป็นจากประเทศที่มีพรมแดนติดกับไทยแต่ปริมาณไม่มาก
ข่าวโดย : จักรภัทร แสนภูธร รายงาน รมณ ภัทรทองศักดิ์ ถ่ายภาพ
