เชียงราย-ลำเลียงยานรกมาเต็มลำรถ เรียกตรวจ กลับเหยียบคันเร่งส่งพุ่งแหกด่าน ขับมอไซค์ไล่ล่าอย่างฉากเด็ดในหนังแอ็คชั่น สุดท้ายพุ่งตกข้างทาง อาศัยความมืดเป็นฉากกำบังหลบหนีไป เร่งสนธิกำลัง ปิดล้อม
เวลา 10.00 น.วันนี้ (19 พ.ค.61) ที่หน่วยเฉพาะกิจ ฉก.ม.3 ภายในค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผบ.มทบ.ที่ 37 พอ.จิดากร จันทรา ผบ.ฉก.ม.3 พ.ต.อ.พศวีร์ โชติเทียนชัยวัต รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้นำของกลาง ยาบ้า 7.8 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 50 กิโลกรัม รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์รีโว่ สีเทา-ดำ ป้ายแดง มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แถลงว่า ตามนโยบายของรัฐบาล โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกองทัพบก กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้บูรณาการสั่งการให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลัง เพื่อขับเคลื่อนแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ให้มีการเพิ่มความเข้มข้นทางด้านการปราบปราม มุ่งเน้นการสกัดกั้นในลักษณะการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดทางยุทธวิธี มีการปรับเปลี่ยนเวลาไปตามสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการลาดตระเวน เฝ้าตรวจสอบตามเส้นทางในภูมิประเทศที่ล่อแหลม รวมทั้งเสริมงานด้านการข่าว มีการตั้งโต๊ะข่าว มีเจ้าหน้าที่ทำการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อให้ทันเวลาในการสั่งการในการออกปฎิบัติงาน อย่างเข้มงวด และเข้มข้น โดยทางการข่าว ได้รับแจ้งว่าจะมี กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ทำการลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ จากทางด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง ผ่านมาตามถนนในเส้นทางสายรอง ในเส้นทางรอยต่อของ อ.ดอยหลวงเชื่อมต่อกับ อ.เวียงเชียงรุ้ง เพื่อลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศจึงได้สั่งการให้ พ.อ.กิดากร จันทรา สั่งการต่อให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในพื้นที่ จัดกำลังตั้งจุดตรวจ จุดสกัดทางยุทธวิธี อย่างเข้มงวดจนกระทั่งเวลา 21.45 น.เมื่อคำคืนที่ผ่านมา ในขณะที่ รท.ไกรสร พุฒหมื่น หัวหน้าชุดรอยต่ออำเภอเวียงเชียงรุ้ง บก.ควบคุมพื้นที่พิเศษรอยต่อ 4 อำเภอ จังหวัดเชียงราย นำกำลังตั้งจุดตรวจ ทางยุทธวิธี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงเชียงรุ้ง ตรงบริเวณถนนบนเส้นทาง บ้านป่าสักงาม หมู่ที่ 9 ต. ดงมหาวัน อ. เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ในขณะที่สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาได้พบรถยนต์กระบะตอนเดียว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทา-ดำ ป้ายแดง บรรทุกสิ่งของต้องสงสัยมาเต็มหลังกระบะที่ต่อคอกสูงขึ้นมาเสมอหัวเก๋ง โดยใช้ผ้าใบคลุมไว้อย่างมิดชิด ขับตรงมาจากทางด้านรอยต่อของ อ.ดอยหลวง มุ่งหน้าเข้ามาทาง อ.เวียงเชียงรุ้ง จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจสอบ ซึ่งชายผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวได้ทำท่าชะลอคล้ายจะจอดแต่เมื่อใกล้ถึงตัวเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ กลับเหยียบคันเร่งส่งซิ่งแหกด่านของเจ้าหน้าที่ไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเหตุการณ์เป็นดังนั้น เจ้าหน้าที่ทหารอีก 2 นายที่ จึงได้กระโดดขึ้นรถจักรยานยนต์ ซึ่งจอดประจำการอยู่ออกขับไล่ล่าติดตามรถยนต์คันดังกล่าวไปอย่างกระชั้นชิด และได้สั่งการทางวิทยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสกัดจับอีกทางหนึ่ง ด้วยการที่บรรทุกสิ่งของมาเต็มลำรถ ประกอบกับคาดว่าคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง และขับมาด้วยความเร็วเพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ เมื่อมาถึงทางโค้ง ติดกับสวนยางขนาดใหญ่ของชาวบ้าน รถยนต์คันดังกล่าว ได้เสียหลักตกลงไปยังข้างทาง ห่างจากจุดตรวจไปประมาณ 350 เมตร เมื่อจวนตัว และเห็นว่าไม่มีทางรอด ชายคนขับรถยนต์คันดังกล่าวได้รีบเปิดประตูอาศัยความมืดเป็นฉากกำบังวิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนยางหลุดรอดการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปอย่างหวุดหวิด จึงได้ขอกำลังเสริม และสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการปิดล้อมพื้นที่ เพื่อติดตามหาตัวชายคนขับรถยนต์ ที่ขับแหกด่านหลบหนี เพื่อนำตัวมาสอบสวนจากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งสภาพด้านหน้าของห้องเครื่องมีรอยบุบยุบมาเกือบถึงกระจก ไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ และเมื่อตรวจสอบที่ด้านหลังกระบะบรรทุก พบยาบ้า บรรจุอยู่ภายในกระสอบฟาง ที่มีการแพ็คกิ้งมาเป็นอย่างดีถึง 3 ชั้น จำนวน 39 กระสอบ รวมยาบ้าทั้งสิ้น 7,800,000 เม็ด และพบยาไอซ์ บรรจุอยู่ภายในห่อชา อีก 2 กระสอบ น้ำหนักรวม 50 กิโลกรัม จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวพบว่าเป็นรถยนต์ใหม่ ป้ายแดง มีชื่อนายทรงชัย อยู่ลือ อายุ 31 ปี ชาว อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เป็นเจ้าของโดยได้ซื้อมาด้วยเงินสดจาก บริษัท โตโยต้าเชียงราย จำกัด เมื่อประมาณ 7 เดือน ที่ผ่านมา จึงได้ทำการอายัดไว้ และประสานเข้าไปยังพื้นที่ นำตัวนายทรงชัย มาสอบสวนขยายผลว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในครั้งนี้ มากน้อยอย่างไร แม่ทัพภาคที่ 3 ยังได้แถลงผลการจับกุมยาเสพติดที่สำคัญในพื้นที่ชายแดน และพื้นที่พิเศษ ในห้วง 7 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 ถึง เดือนเมษายน พ.ศ. 2561 โดยฝ่ายทหาร ที่สามารถจับกุมได้เอง และที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคอื่นๆ สามารถจับกุมตรวจยึดยาบ้าได้มากเป็นจำนวนถึง 21.8 ล้านเม็ด ซึ่งเมื่อรวมกับการที่ได้จับกุมตรวจยึดได้ในครั้งนี้อีก 7.8 ล้านเม็ด จะรวมกันเป็นจำนวนมากสูงถึง 29.6 ล้านเม็ด และยาไอซ์ เมื่อรวมกับครั้งนี้ได้จำนวนสูงถึง 867 กิโลกรัม เลยทีเดียว ซึ่งหากหลุดรอดไปได้จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดได้ เป็นจำนวนมหาศาล จึง อยากขอร้องทุกท่านให้ช่วยกันดูแลบุตรหลาน คนใกล้ชิด ให้ลด ละ เลิก ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อสร้างอนาคตของประเทศชาติ ให้มั่นคง เจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต
ข่าวโดย : เพทาย บ้านชี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: