พิษณุโลก เดินหน้าลุยกรมอุทยานแห่งชาติฯเตรียมใช้มาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ รื้อถอน โดยไม่ต้องรอคดีอาญาถึงที่สุด”เตือนตรวจสอบก่อนซื้อขาย”
วันที่ 12 กันยายน 2561 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่11 นายทักษิณ มงคลรัตน์ ห้วหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ได้ดำเนินการตามมาตรการทางปกครอง ม.22 พ.ร.บ.อุทยานแห่ง พ.ศ. 2504 เข้าทำการรื้อถอน โดยไม่ต้องรอคดีอาญาถึงที่สุด มี 2 คดีด้วยกันคือคดีของนางสารภี คงอินทร์ เศรษฐีนี (ชาวภาคใต้) ได้มีการซื้อขาย เปลี่ยนมือ โอนสิทธิ์ พื้นที่สวนยางพารา จำนวน 176 ไร่ 12,320 ต้น ในเขตผ่อนผันให้ราษฎรอยู่อาศัยหรือทำกิน ตามโครงการ 30 มิ.ย.41 ในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก เป็นการกระทำผิดกฎหมายอุทยานแห่งชาติ และคดีบ้านพักตากอากาศเรือนไทย3 หลัง
โดยคดีของนางสารภี คงอินทร์ เศรษฐี(ชาวภาคใต้) นั้นได้เข้ามอบตัวและสู้คดีในชั้นศาลทั้งในคดีอาญา และคดีปกครอง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯได้ตรวจยึดพื้นที่ปลูกยางพารา จำนวน 176-3-25 ไร่ และยางพารา อายุประมาณ 14 ปี จำนวน 12,320 ต้น ซึ่งนางสารภี คงอินทร์ ซื้อที่ดินมาจากราษฎรตามโครงการ 30 มิ.ย. 41 และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลวงหลวง การกระทำดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายอุทยานแห่งชาติ ตามปจว.ข้อ 2 คดีอาญาที่ 17/2560 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2560 ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นพิษณุโลก มีคำพิพากษา คดีหมายแดงที่ส.2/2561 พิพากษาว่า นางสารภี คงอินทร ไม่มีสิทธิ์อยู่ในที่ดินที่พิพาทและให้อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ใช้มาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติรื้อถอน ต้นยางพาราได้ จำเลยไม่อุทธรณ์คำพิพากษา คดีทางปกครองจึงถึงที่สุดในชั้นศาลปกครองชั้นต้น พร้อมกันนี้ทางอุทยานฯ ได้ดำเนินการติดประกาศแจ้งเตือนให้รื้อถอนตามแบบ อช.ม.22 ค ,หากไม่ดำเนินการรื้อถอนต้นยางพาราภายใน 30 วัน จะดำเนินการสนธิกำลังเพื่อทำการรื้อถอนตามกฎหมายต่อไป
คดีบ้านพัก 3 หลังนั้นไม่มีผู้มีแสดงตนว่าเป็นเจ้าของ จึงดำเนินการตามมาตรการทางปกครอง ม.22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 คดีไม่พบตัวผู้กระทำผิด ไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดบ้านพักตากอากาศทรงไทย 3 หลัง ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ตามปจว.ข้อ 6 คดีอาญาที่ 36/2560 เวลา 22.20 น ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 ซึ่งอัยการพิษณุโลก มีคำสั่งงดสอบสวน และอุทยานฯได้ดำเนินการติดประกาศแจ้งเตือนให้รื้อถอนตามแบบอช.ม.22 ค , และได้ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ซึ่งแพร่หลายในท้องถิ่นในกรณีไม่รู้ตัวผู้รับ ตามมาตรา 73 พ.ร.บ.วิธิปฏิบัติราชการทางปกครองฯที่ให้ถือว่ารับแจ้ง เมื่อพ้น 15 วัน เป็นที่เรียบร้อยแล้วหากไม่ดำเนินรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายในกำหนดเวลา 30 วัน จะได้สนธิกำลังเพื่อทำการรื้อถอนตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: