พิษณุโลก ญาติเข้าพบตำรวจติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของผศ.ดร.อรรจน์ อิงคนินันท์ บัณฑิตย์ ประธานหลักสูตรสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม หลังพบเป็นศพลอยกลางแม่น้ำน่านเมื่อ 3 ต.ค.61 หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.กับเพื่อนชาย
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ต.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก นางทรัตน์พร บัณฑิตย์ นาคสวัสดิ์ อายุ 52 ปี อาจารย์สาขาวิชาโทภาษาฝรั่งเศส คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก ได้เข้าพบ พ.ต.ต.(หญิง) กัลยาณี ท่าโพธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อแจ้งว่า หลังจากตนได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวนและลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา กรณีที่พี่ชายของตนคือ ผศ.ดร.อรรจน์ อิงคนินันท์ บัณฑิตย์ อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 26/54 ถนนสนามบิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ประธานหลักสูตรสาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 นั้น
ต่อมาตนทราบว่า พ.ต.ท.สันตสิริ เมตตาวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งว่าพบศพชายไทยลอยไปติดริมตลิ่งแม่น้ำน่านหน้าคริสต์จักร ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 3 ต.ค. 2561 ตนจึงไปดูศพผู้เสียชีวิตที่นิติเวช รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร พบว่าเป็นพี่ชายตน ซึ่งนำรถยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่โรงแรมวังจันทน์ริเวอร์วิว ก่อนที่จะเดินทางไป จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เนื่องจากต้องไปนิเทศนักศึกษาฝึกงาน โดยไปกับเพื่อนไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด กระทั่งวันที่ 3 ต.ค.เวลาประมาณ 17.00 น. ยังไม่เห็นพี่ชายกลับมาที่ เพราะต้องเปลี่ยนกันดูแลมารดา จึงโทรศัพท์ไปสอบถามแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ที่จำได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นพี่ชาย เพราะนิ้วเท้าไม่ทันและมีรอยแผลเป็นที่หลัง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นตนติดใจสงสัยว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย เพราะพี่ชายของตนว่ายน้ำเป็น เชื่อว่าอาจจะเป็นเพื่อนของพี่ชายที่เดินทางไป จ.อุตรดิตถ์ ด้วยกัน เพราะพี่ชายมีพฤติกรรมเบียงเบนทางเพศ ชอบคบผู้ชายด้วยกัน
นางทรัตน์พร ให้การต่อว่า ผู้ชายที่ไป จ.อุตรดิตถ์ ด้วยกันน่าจะเป็นคนที่แอบคบหากันอยู่ โดยเป็นคนที่ตนไม่รู้จักเพราะพี่ชายไม่ยอมเปิดเผยให้ทราบ สวนแฟนของพี่ชายตนที่รู้จักคบกันมาหลายสิบปีแล้วอยู่ที่ จ.สงขลา และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่โรงแรมที่พี่ชายนำรถไปจอดทิ้งไว้ทราบว่า ชายดังกล่าวอายุประมาณ 30 – 35 ปี สูงประมาณ 170 ซม. ผิวขาว ขับรถยนต์เก็งยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนด์เซอร์ โดยพี่ชายของตนนั่งโดยสารไปกับชายคนดังกล่าว และขณะพบศพไม่พบทั้งแหวนและสร้อยคอทองคำของพี่ชาย ส่วนสร้อยห้อยพระเครื่องที่พบคล้องคอพี่ชายอยู่ขณะพบศพก็ไม่ใช่ของพี่ชายตน กระเป๋าสตางค์ที่ใส่เอกสารและเงินสดจำนวนหนึ่งก็หายไปด้วย จึงอยากให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วให้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: