พิษณุโลก พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ว่าด้วยเรื่องการบริหารจัดการน้ำ “บางระกำ 61” บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต่ำลุ่มน้ำยมจ.สุโขทัย-พิษณุโลก ผันน้ำเข้าคลองให้เกษตรกรปลูกข้าวได้เร็วขึ้น เกี่ยวได้ทันก่อนน้ำท่วม ขยายพื้นที่เพิ่มอีกเป็น 382,000 ไร่
เวลา 09.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ห้องบันเทิงทัพ 101 สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวร-มหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ว่าด้วยเรื่องการบริหารจัดการน้ำ “บางระกำ 61” บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต่ำลุ่มน้ำยมจ.สุโขทัย-พิษณุโลก เป็นโครงการต่อเนื่องจากบางระกำโมเดล 60 ให้พื้นที่ลุ่มต่ำ สามารถปลูกข้าวได้ปีละ 2 ครั้ง และ จะเป็นพื้นที่หน่วงน้ำในช่วงหน้าฝนระยะเวลา 4 เดือน
แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 3 ได้บูรณาการหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกแผนงาน เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในพื้นที่ ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะ การแก้ไขปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ โดยน้อมนำแนวทางพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ ในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และตอบสนองนโยบายของรัฐบาล โดยการเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ การจัดทำประตูน้ำ คลองผันน้ำ การเก็บน้ำลงดิน การพิจารณาพื้นที่เนินเขาเป็นพื้นที่รับน้ำ ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง ทั้งน้ำแล้งและน้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ดังนั้นจึงก่อให้เกิด “โครงการบางระกำโมเดล 60 ” ขึ้น ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการหน่วงน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่อยู่ระหว่างแม่น้ำยมกับแม่น้ำน่าน ครอบคลุมพื้นที่ 265,000 ไร่ ในจ.สุโขทัยและจ.พิษณุโลก โดยมีการบริหารจัดการน้ำในรูปแบบประชารัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับภูมิสังคมและวิถีชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยการส่งน้ำให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าวนาปีในพื้นที่โครงการ เกษตรกรจึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนฤดูน้ำหลาก ในเดือนสิงหาคมทำให้ประหยัดงบประมาณภาครัฐ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เกษตร อีกทั้งยังใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำหลากจากลุ่มน้ำยม ทำให้ลดผลกระทบจากอุทกภัย นอกจากนี้ช่วยชะลอการระบายน้ำลงสู่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถหน่วงน้ำได้ประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลจากโครงการฯดังกล่าว ทำให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากผลิตภัณฑ์ข้าว และการทำอาชีพประมง สามารถสร้างรายได้เสริมวันละ ๓๐๐ บาท ถึง ๕๐๐ บาท ต่อครัวเรือน ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ทหารพราน สุดเจ๋งรวบสมชาย ขนยาบ้าแสนกว่าเม็ดพ่วงยาไอซ์ 300 กรัม
- นบ.ยส.24 บูรณาการร่วมกับกลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สสจ.นครพนม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือตรวจพื้นที่อาคารหลังศูนย์ฟื้นฟู…
- เซ็นทรัลมอบเงินช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย
- จ.สุโขทัย สุดคึกคัก งานลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ทั้งชาวไทยต่างชาติลอยกระทงกันแล้ว
และจากความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำร่วมกันอย่างเป็นระบบ (บางระกำโมเดล 60 )กองทัพภาคที่ 3 จึงได้จัด พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ว่าด้วยเรื่องการบริหารจัดการน้ำ “บางระกำ 61 ” (การบริหารจัดการน้ำเพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกข้าวนาปี พื้นที่ลุ่มต่ำ ในเขตชลประทาน ปี 2561 ) ขึ้น โดยได้เชิญหน่วยงานภาครัฐ, สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์การมหาชน) และตัวแทนภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบ มาร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อบริหารจัดการน้ำ “บางระกำ 61 ” ครอบคลุมพื้นที่ 382,000 ไร่
โดยจะเริ่มปล่อยน้ำนอนคลอง ในวันที่ 15 มีนาคม 2561 ซึ่งบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะจัดทำขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีการบูรณาการแผนงาน โครงการและงบประมาณ ตลอดจนมีส่วนร่วมให้ความร่วมมือกัน ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในขอบเขตพื้นที่ของโครงการ แบบชุมชนมีส่วนร่วมตามแผนงาน ซึ่งจะทำให้โครงการประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ทุกประการ นอกจากนี้ยังสามารถจะขยายผลความสำเร็จ โดยเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานอื่นๆ ได้นำไปพิจารณาใช้ประโยชน์ ในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำอื่นๆ ของประเทศได้อีกด้วย
——————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: