ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรีชี้แจง กรณีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกบ้านทวงรถเก๋งย่านเมืองนนท์ รับว่าเป็นตำรวจจริงพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 ม.ค.63 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นายประทีป มากคำ อายุ 63 ปี พร้อมด้วย น.ส.สมรักษ์ ภิรมย์พร อายุ 46 ปี (ภรรยา) ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ. สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรีอีกครั้งหลังจากเมื่อวานพร้อมทนายความได้นำหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดมาแจ้งความแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้ง โดยผู้เสียหายแจ้งว่าบุคคลในคลิปภาพวงจรปิดนั้นเป็น น.ส.น้ำค้าง (นามสมมุติ) พร้อมชายฉกรรจ์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ มาข่มขู่ บุกเข้ามาที่บ้านเลขที่ 187/6 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 7 และวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายถ้าไม่นำรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ยาริส สีขาว ทะเบียน 1 กร 4285 กทม. มาคืนให้ โดยเรื่องราวเกิดจากสาเหตุที่นายทอง เงินเผือก (ลูกเขย) ได้เสียชีวิตลงไป ทำให้ทางน.ส.น้ำค้าง น้องสาวของผู้เสียชีวิตมาทวงทรัพย์สินที่เป็นชื่อของนายทอง พี่ชาย คืนซึ่งเป็นรถ จยย.และรถยนต์เก๋ง
ข่าวน่าสนใจ:
- ฝ่ายปกครอง อ.ปลาปากสนธิกำลังตร .บุกรวบหนุ่ม 20 ขาใหญ่ จำหน่ายยาบ้า โดดหลังบ้าน คว้ามีดพร้าเปิดทาง หลบหนีไปไม่รอด
- ตร คลี่ปม หนุ่มวัย 29 ปี ถูกรถไฟชน มีเสื้อมัดเท้า ยืนยันเป็นเพียงมัดแทนรองเท้าเดินริมทางรถไฟ
- บุรีรัมย์ ปล่อยแถวระดมกวาดล้าง ตรวจค้น ยาเสพติด ก่อนปีใหม่
- ตม.สระแก้ว บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานข้างเคียง จับกุมไทย-เขมร 2 ราย ไม่เข้าออกตามช่องทาง
ล่าสุด พ.ต.อ. สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวและดูคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วและที่มีการนำเสนอข่าวไป โดย น.ส.น้ำค้าง พร้อมกลุ่มชายฉกรรจ์ยกพวกไปทวงรถยนต์เก๋งนั้น โดยตรวจสอบแล้วกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี และขอชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น 2 ครั้งโดยวันแรกเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการไปทวงรถยนต์ ปรากฎว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ซึ่งทางฝ่ายผู้เสียหายไม่ได้ให้รถยนต์ไป เมื่อรู้ว่าไม่ได้รถคืน ทางฝ่ายคู่กรณีซึ่งเป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิตก็เดินทางกลับ ต่อมาวันที่ 9 ม.ค.ทางฝั่งคู่กรณีก็มาที่บ้านผู้เสียหายอีกครั้ง โดยนำชายฉกรรจ์และตำรวจชุดสืบสวนสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี จำนวน 3 นาย ไปด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย รู้จักมักคุ้นกับทั้ง 2 ฝ่ายเป็นอย่างดี จากนั้นได้มีการพูดคุยและทวงรถ จยย. ซึ่งทางฝ่ายน้องสาวของผู้เสียชีวิตมีหลักฐานมาแสดงชัดเจน ทางผู้เสียหายจึงคืนรถ จยย.ให้ แต่ในส่วนของรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส นั้น ทางคู่กรณีไม่มีหลักฐานมาเเสดง โดยได้พาพวกมาหลายคน จนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ผู้เสียหายได้สังเกตเห็นว่า 1 ในกลุ่มคู่กรณีพกพาอาวุธปืนมาด้วย จึงเกิดความหวาดกลัว ซึ่งในส่วนคนที่มีอาวุธปืนทางพนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง ถ้าหากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน และในส่วนที่ยกพวกไปในบ้านผู้เสียหาย ก็มีความผิดฐานบุกรุก
ขณะเดียวกันทางรถยนต์เก๋ง ที่เป็นประเด็นอยู่นั้น ถ้าหากทางน้องสาวของผู้เสียชีวิต ยืนยันที่จะนำรถคืนไป ก็ต้องให้นำหลักฐานเอกสารสิทธิ์ในการครอบครองมายืนยันและไปต่อสู้กันในชั้นศาล โดยขณะนี้ผู้ที่มีสิทธิ์ในการครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวยังอยู่ในความดูแลของ น.ส.เกวลี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิต พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ยังกล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ตนยังเรียกพนักงานสอบสวนมาพบและว่ากล่าวตักเตือนกรณีที่ให้ข้อมูลกับประชนชนไม่ชัดเจน จนทำให้เกิดการเข้าใจผิด เบื้องต้นได้เเจ้งข้อหาบุกรุกกับกลุ่มผู้ต้องหาและหากพบว่าเข้าข่ายความผิดมาตราใดก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุด ซึ่งตนยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: