แม่บ้านสาวใหญ่หอบหลักฐานเข้าร้องทนายรณรงค์ให้ช่วยตามคดี อ้างถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 สองใบแต่สลากหาย เจ้าตัวระบุสงสัยสามีและเพื่อนใกล้ชิดของสามี
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 มี.ค.63 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.ฐิตาพรหรือโบว์ ญาณเวียง อายุ 37 ปี ชาว จ.อุดรธานี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โดยนางสาวฐิตาพร เปิดเผยว่า ตนอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายดิเรก หรือ ตุ้ม ขอสงวนนามสกุล มานานหลายปีโดยพักอยู่บ้านเลขที่ 36/120 หมู่ 10 หมู่บ้านธนารักษ์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายตุ้ม สามีมีอาชีพขายผลไม้ ตนเองเป็นคนชอบเสี่ยงโชคมักซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดละหลาย 10 ใบ
จนกระทั่งวันที่ 27 ส.ค. 62 ตนเองได้ซื้อล๊อตเตอรี่จากลุงปั่นจักรยานที่ผ่านมาหน้าบ้าน จำนวน 7 ใบ เป็นเงิน 700 บาท โดยตนได้นำสลากล๊อตเตอรี่ทั้งหมด วางไว้ใต้รูปปั้นปี่เซี้ยะ เมื่อถึงเวลาออกรางวัลงวดดังกล่าวคือวันที่ 1 ก.ย. 62 พบว่ารางวัลที่ 1 ได้แก่หมายเลข 798787 จึงนึกขึ้นได้ว่ามีเลขตรงกับรางวัลที่ 1 ดังกล่าว 2 ใบ เป็นเลข 798787 งวดที่ 42 ชุดที่ 33 34 ที่ตนเซ็นชื่อไว้ด้านหลังสลากพร้อมเบอร์โทรศัพท์ เมื่อไปยกรูปปั้นปี่เซี้ยะพบว่าล๊อตเตอรรี่ที่ตนวางไว้หายไปแล้ว สอบถามนายตุ้ม สามีก็บอกไม่รู้ไม่เห็น ตนสงสัยว่านายตุ้มหรือนางสาววีคนใกล้ชิดสามีที่เข้าออกในบ้านจะเป็นคนเอาไป หลังจากนั้นวันที่ 29 พ.ย. 62 ตนได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ คชศะกดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อให้ช่วยติดตามล๊อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ของตนเอง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดต่อหาหลักฐานจากทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อตนไปติดต่อทำเรื่องทางเจ้าหน้าที่กองสลากให้ตนกับไปติดต่อร้อยเวรเจ้าของคดีเพื่อเปลี่ยนเป็นคดีอาญาให้ระบุตัวผู้กระทำผิด ขณะเดียวกันตนเองยังได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอความเป็นธรรม และเดินทางเข้าสอบถามเรื่องราวจากทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อขอให้ระงับจ่ายเงินรางวัลสลากชุดดังกล่าวของตนเองและยืนยันว่าตนเองถูกรางวัลจริง เซ็นชื่อและเลขหมายโทรศัพท์ด้านหลังสลากจริง “ทุกวันนี้ต้องเลิกกับสามีและหนีกลับไปอยู่บ้านที่จ.อุดรธานี เพราะหลังเกิดเรื่องมีคนใกล้ชิดมาบอกว่าให้ระวังตัวหากยังไม่หยุดเดินเรื่องร้องเรียนหรือกล่าวหาคู่กรณี ตนเองกลัวมากจึงต้องหลบกลับบ้านที่ต่างจังหวัด”
ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ต้องดูตรงที่เขาบอกว่าได้เซ็นสลักหลังไว้เป็นชื่อและเบอร์โทรเราในต้นขั้วที่นำไปเบิกเงินว่ามีชื่อมีเบอร์โทรจริงไหม ถ้ามีจริงก็เป็นเรื่องจริง ต้องดำเนินการยึดทรัพย์สินและดำเนินคดีอาญาต่อไป ถ้าไม่เจอแสดงว่าเป็นเรื่องไม่จริง แต่เบื้องต้นจะจริงหรือไม่จริงต้องตรวจสอบก่อน ทางพนักงานสอบสวนสามารถใช้อำนาจในการออกคำสั่งเรียกเอกสารมาตรวจสอบได้ ซึ่งต้องทำให้เพราะเจ้าตัวมาร้องทุกข์ จะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ต้องตรวจสอบเพราะเจ้าตัวยืนยันว่าเซ็นชื่อในสลากไว้ด้านหลังจริง เพราะฉนั้นตรวจสอบไม่ยาก กองสลากเท่าที่ทราบ แม้จะมีสลักหลังเป็นชื่ออื่น คนที่ถือไปก็สามารถเบิกได้อยู่ดี ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานของคนที่เขียนชื่อไว้ เงื่อนไขของกองสลากคือคนถือหวยเป็นเจ้าของสลาก หลังจากนำเงินไปแล้วจะต้องฟ้องร้องกันที่หลังอีกเรื่องนึง
