เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษอำเภอบางใหญ่ตรวจเข้มจับหนุ่มฝ่าฝืนเคอร์ฟิวเพิ่มอีก 2 ราย
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 4 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ว่าการอำเภอบางใหญ่ นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล นายอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้สั่งการให้ นายสมพล สุระสัจจะปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงพร้อมด้วยนายชมชน ขุนทวาท ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง , สมาชิกอส.ร้อย.อ.บางใหญ่ที่ 6 ออกตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยงบริเวณพื่นที่อำเภอบางใหญ่ โดยเฉพาะในตลาดกลางบางใหญ่ที่มีพ่อ-แม่ค้า และประชาชนที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องข้อกฎหมายจึงประชาสัมพันธ์ ให้ทราบถึงมาตรการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉินเรื่องห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00 น ถึงเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ซึ่งทางพ่อค้า-แม่ค้า ได้รับทราบและพร้อมปฎิบัติตามมาตรการณ์ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด
จากนั้นได้ทำการออกตรวจตามหมู่บ้านต่างๆภายในพื่นที่ตำบลเสาธงหิน,ตำบลบางเลน,ตำบลบางม่วง,ตำบลบางแม่นาง เพื่อป้องปรามมิ่ให้ประชาชนฝ่าฝืนกฎระเบียบในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยระหว่างออกตรวจพบผู้ขับขี่รถจยย.ขับผ่านมาจึงทำการเรียกตรวจสอบ ซึ่งผู้ขับขี่ได้เเสดงเอกสารรับรองจากนายจ้างหรือผู้ประกอบการ ถูกต้องตามคำสั่งเคอร์ฟิว จึงได้เเนะนำถึงวิธีการป้องกันการเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เเละกำชับให้รีบกลับบ้านอย่าได้เเวะที่อื่นโดยเด็ดขาด
ต่อมาเวลาประมาณ 23.45 น.พบนายรัตนชัย คล่องแคล่ว อายุ 18 ปี ชาว จ.นนทบุรี พร้อมด้วย นายนัฐวุฒิ แจ่มฟ้าอายุ 19 ปี ชาว จ.นนทบุรี เดินอยู่ภายในโครงการเอื้ออาทรบางใหญ่ เมื่อผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย เจอเจ้าหน้าที่ ได้วิ่งหลบหนีเเต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ในเวลาต่อมา จึงได้เเจ้งข้อกล่าวหาออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา22.00 น.ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นโดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดออกนอกพื้นที่ตามมาตรา 9 แห่งพรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิกพ.ศ.2548 ฉบับที่ 2 ข้อ1.ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
