โซเชี่ยลแรง!!คนแห่ช่วยยายวัย 70 หลังจากมีผู้โพสต์และมีการแชร์ความเป็นอยู่ของยายพร้อมสุนัข วอนให้สังคมและหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ ขณะที่ทางชาวบ้านให้ข้อมูลตามความจริงพร้อมกับเผยว่าก่อนหน้ามีการช่วยจากชาวโซเชี่ยลมาแล้วครั้งหนึ่งได้ยอดเงินกว่าครึ่งล้าน
วันที่ 10 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณ หมู่ 1 ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังจากมีผู้ใช้เฟสบุ๊คแชร์ข้อความและภาพถ่ายหญิงชราพร้อมสุนัข โดยส่งต่อๆกันมาจำนวนมากในข้อความระบุว่า พบยายนอนปลูกเพิงในที่โล่งๆของธนาคารเก่ายายอายุ 70 อยู่คนเดียวแกเลี้ยงหมาไว้ 1 ตัวยายไม่มีลูกไม่มีครอบครัวเก็บขวดขายมีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ 700 บาท พิกัดโรงเรียนวัดหนองเพรางาย ที่ธนาคารเก่า อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี วันนี้ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว
จุดดังกล่าวเป็นที่โล่งข้างโรงเรียนบ้านหนองเพรางาย พบเป็นลักษณะเพิงพักปลูกสร้างเองโดยใช้ไม่ค้ำยันและผ้าใบเก่าคลุมบังแดดบังฝน ภายในเพิงพักนั้นพบน.ส.ลูกชิ้น อาภาศิลป์ อายุ 78 ปีตามบัตรประชาชนอยู่บ้านเลขที่ 23 ซ.นักกีฬาแหลมทอง 1 แยก 2-4 แขวง ทับช้าง เขต สะพานสูง กทม นั่งอยู่โดยมีชาวบ้านและประชาชนทั่วไปทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ที่ทราบข่าวจากโลกโซเชี่ยล นำข้าวสารอาหารแห้งและเงินสดมามอบให้กับคุณยายลูกชิ้น กันเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางด้านของชาวบ้านที่อยู่ในแวกใกล้เคียงซึ่งรู้จักกับคุณยายลูกชิ้นเป็นอย่างดี รวมถึงนายนายแสงอาจโต อายุ 60 ปีสมาชิก อบต.หนองเพรางาย หมู่ 1 มาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าข้อมูลที่ลงในโลกโซเชี่ยลไปนั้นมีลักษณะบิดเบือนไปบ้างบางส่วน
นายแสง สมาชิก อบต.หนองเพรางาย เปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงให้ฟังว่าน.ส.ลูกชิ้น สมัยก่อนเคยทำงานอยู่โรงงานกระดาษหลังจากน้ำท่วมใหญ่ก็ไม่ได้ทำงานอีก กระทั่งมาพักอาศัยอยู่ที่สถานที่ดินว่างเปล่าแห่งนี้ ต่อมาเมื่อปี 2561 มีคนไปโพสต์ข้อความในโลกโซเชี่ยลถึงความเป็นอยู่ของน.ส.ลูกชิ้น ทำให้มีประชาชนจำนวนมากนำข้าวสารอาหารแห้งรวมถึงบริจาคเงินเข้าบัญชีเป็นเงินกว่า 500,000 บาท(ห้าแสนบาท) จากนั้นตัวบุตรชาย(ลูกเลี้ยง)คือนายคมสันติกลิ่นชะเอม อายุ 48 ปีได้มีการเบิกทอนไปใช้จ่ายแบบไม่จำเป็นเช่นนำเงินไปซื้อรถจักรยานยนต์ทีเดียวถึง 3 คันรวมถึงไปซื้อสร้อยคอทองคำใส่ซึ่งตัวนายคมสันติ ไม่มีอาชีพ ได้แต่กินเหล้าเมาไปวันๆ จนทำให้เงินที่ได้รับบริจาคนั้นหมดไปโดยล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้นำบัญชีไปตรวจสอบพบว่ายอดเงินในบัญชีนั้นเหลือเพียง 16 บาทเท่านั้น ส่วนการหลับนอนนั้นน.ส.ลูกชิ้น จะมาอยู่ที่เพิงพักนี้ในช่วงกลางวันพอถึงเวลาประมาณ 22.00 น.จะเดินทางกลับไปนอนที่ห้องเช่าบริเวณหมู่ 4 และจะกลับออกมาตรงที่เดิมนี้อีกครั้งช่วงเวลา 04.00 น.เป็นแบบนี้ทุกวันซึ่งเหตุผลเข้าใจว่ามาอยู่ตรงนี้ในช่วงกลางวันจะมีคนที่ผ่านไป-มานำอาหารและเงินมามอบให้ซึ่งจะมีรายได้ทุกวัน
ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และทางเจ้าหน้าที่ของ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเพรางายได้ลงพื้นที่พร้อมกับให้การช่วยเหลือโดยการย้ายน.ส.ลูกชิ้น มาอยู่ที่ห้องเช่าอย่างถาวร โดยจัดการเรื่องค่าเช่าให้ล่วงหน้า 1 เดือนพร้อมมอบเงินสดให้กับนายคมสันติ ไว้อีกจำนวนหนึ่งซึ่งทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้พูดคุยกับทั้ง 2 เพื่อจะนำตัวไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์แต่ทั้งนายคมสันติและน.ส.ลูกชิ้นไม่ยินยอมที่จะไป จึงได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรระบุข้อความโดยรวมคือนายคมสันติและนางลูกชิ้น จะไม่มีพฤติกรรมไปเร่ร่อนในที่สาธารณะซึ่งรับทราบพฤติกรรมดังกล่าวมีความผิด พ.ร.บ.คนไร้ที่พึ่งพ.ศ.2557 ถ้าพบเห็นทั้ง 2 นั้นออกไปเร่ร่อนและหลับนอนอยู่ตามที่สาธารณะจะดำเนินการนำตัวไปพักอยู่ที่สถานสงเคราะห์ทันที
