ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มคน 3 คนชาย 2 หญิง 1 ช่วยกันยกตัวพ่วงข้างรถจักรยานยนต์ขึ้นรถ อ้างเพื่อหักหนี้ ขณะที่ผู้เสียหายแจ้งความรุดเข้าแจ้งความแล้ว
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 13 พ.ค. 63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.น้อยหน่า ไทรนนทรีย์ อายุ 47 ปี อาชีพ แม่ค้าส้มตำว่าถูกกลุ่มคน 3 คนมาขโมยตัวพ่วงข้างรถ จยย.ซึ่งจอดไว้ที่บริเวณหน้าร้านรุ่งทิวานวดแผนโบราณ ซอย ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี โดยเเจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี
ข่าวน่าสนใจ:
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 เวลา 17.00 น.ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่มีชาย 2 คน หญิง 1 คน เป็นวัยกลางคนแต่งตัวดี ทั้ง 3 คนได้เดินวนไปมาอยู่ที่บริเวณหน้าร้านรุ่งทิวานวดแผนโบราณ ก่อนที่จะเดินเข้าไป ช่วยกันยก ตัวพ่วงข้างของรถ จยย.แล้วเข็นขึ้นรถกระบะไม่ทราบหมายเลขทะเบียนแล้วขับหลบหนีไป
จากการสอบถาม น.ส.น้อยหน่า ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเสาร์ที่ 9 พ.ค. 63 ตนได้โอนเงินซื้อตัวพ่วงข้าง จยย.กับเจ้าของร้านรุ่งทิวานวดแผนโบราณ ในราคา 3,000 บาท จากเดิมราคา 6,500 บาทโดยเจ้าของลดราคาให้ซึ่งตนจะใช้ไว้สำหรับขายส้มตำเพราะคันเก่ามันผุพังหมดแล้ว ในวันที่ซื้อขายกันตนยังไม่ได้ย้ายพ่วงข้างออกจากหน้าร้านรุ่งทิวาเพราะติดงานศพเลยจอดไว้ก่อน โดยตั้งใจว่าประมาณวันจันทร์หรืออังคารจะมาเอา กระทั่งวันจันทร์ตอนเช้าตนได้ขับรถผ่านมาซื้อของก็ยังเห็นตัวพ่วงข้างจอดอยู่ที่เดิมก็เลยไปงานศพตามปกติ พอต่อมาวันอังคารตนจะมาเอาตัวพ่วงข้างแต่กลับไม่พบแล้ว จึงขอดูกล้องวงจรปิดจากร้านข้างๆ ก็พบว่าถูกคน 3 คนช่วยกันยกตัวพ่วงข้างขึ้นรถกระบะไปแล้ว ในขณะที่กลุ่มคนดังกล่าวกำลังยกขึ้นรถอยู่นั้นเพื่อนของตนในซอยที่รู้จักได้เดินเข้าไปถามคนร้ายว่าเขาขายต่อให้หรือทั้ง 3 คนก็ตอบกลับไปว่าร้านนวดได้ติดค่าเช่า ไว้ประมาณ 3 เดือนก็เลยมาเอารถพ่วง เพื่อนของตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ต่อมาตนจึงโทรศัพท์หาเจ้าของร้านนวดที่ขายรถต่อให้ตนเพื่อจะสอบถามว่าได้ให้ใครมายกตัวพ่วงข้างไปหรือเปล่าปรากกฎว่าเจ้าของร้านยืนยันว่าไม่ได้ให้ใครยกไป
น.ส.น้อยหน่า ยังกล่าวต่ออีกว่า อยากฝากถึงคนเอาไปว่า เราไม่รู้ว่าคุณรู้รึเปล่าว่าร้านรุ่งทิวาได้ขายต่อให้เราแล้วเพราะเรามีหลักฐานการโอนเงิน ถ้าคุณเห็นข่าวนี้แล้วคุณเอามาคืนก็จะถอนแจ้งความให้แต่ถ้าไม่เอามาคืนก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: