ตำรวจปลอมตัวเป็นคนออกกำลังกายเข้ารวบ 2 ผัวเมียหลอกขายหน้ากากอนามัยกว่า 7 เเสนบาทหลังก่อเหตุหลบหนีเก็บตัวเงียบในห้องเช่า
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 26 พ.ค.63 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี หน.ศปอศ.ตร , พ.ต.ท.อัศม์เดช มุ่งลือ รอง ผกก.สส. , พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ สว.สส. , ร.ต.อ.สุนทร หงษ์โยธี รอง สว.สส. , ด.ต.วิเวก กมลวิบูลย์ผบ.หมู่งานสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว ผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่ น.ส.รพีพัฒน์ จันทะมูล อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.152/63 และนายกฤษณากร สาริวงศ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 3 ต.หมอเมือง อ.แม่จริมจ.น่าน ผู้ต้องหาตามหมาจจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.153/63 ข้อหา โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองรายเป็นสามีภรรยากัน สามารถจับกุมตัวได้ที่หอพักบ้านประครองสุข ห้องเลขที่ 112 ชั้นที่ 1 ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก น.ส.รพีพัฒน์ จันทะมูล และนายกฤษณากร สาริวงศ์ สองสามีภรรยาได้โพสต์เฟสบุ๊คขายหน้ากากอนามัยจนมีคนหลงเชื่อสั่งซื้อและโอนเงินให้ มีมูลค่าความเสียหายกว่า 7 แสนบาท แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายกลับส่งผ้าห่ม เสื้อผ้าไปให้ผู้เสียหายแทน จากนั้นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดี หลังผู้เสียหายแจ้งความ ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองราย
จนกระทั่ง ด.ต.วิเวก กมลวิบูลย์ ผบ.หมู่ สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายหลบหนีมาเช่าหอพักดังกล่าวอยู่ และทั้ง 2 คนได้ระวังตัวเองมาตลอดโดยไม่ออกไปไหน อยู่แต่ในห้อง จะออกมาก็แค่ซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อเท่านั้น จากนั้น ด.ต.วิเวก จึงปลอมตัวเป็นคนออกกำลังกายเพื่อสืบสวนหาข่าวเป็นเวลากว่า 1 เดือน จนสามารถจับกุมตัวทั้งสองคนได้ในที่สุด
ขณะเดียวกัน น.ส.รพีพัฒน์ จันทะมูล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ช่วงที่โควิด-19 ระบาดทำให้หน้ากากอนามัยมีราคาสูง ตนเห็นว่าได้กำไรดี จึงสั่งซื้อหน้ากากอนามัยเพื่อมาขายต่อ แต่ถูกโกงจึงหาหน้ากากอนามัยมาส่งให้กับลูกค้าไม่ได้ ตอนนั้นตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงนำผ้าห่มกับเสื้อผ้าส่งไปแทน จากนั้นได้หลบหนีมาเช่าห้องพักอยู่ ก่อนถูกตำรวจจับได้ในที่สุด ส่วนเงินที่ได้มา ตนได้นำไปใช้หนี้และเก็บไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งตอนนี้ ได้ใช้เงินไปหมดเเล้ว
นอกจากนี้ ด.ต.วิเวก กมลวิบูลย์ ผบ.หมู่งานสืบสวน เคยเป็นข่าวโด่งดังมาเเล้วกับคดีจับคนร้ายจี้ชิงทรัพย์หญิงสาวที่ป้ายรถเมล์ โดย ด.ต.วิเวก ได้ปลอมตัวเป็นผู้หญิงเเล้วไปนั่งที่ป้ายรถเมล์จนกระทั่งคนร้ายหลงกล เข้ามาก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ทำให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ สามารถรวบตัวคนร้ายเอาไว้ได้และปิดคดีไปได้อย่างรวดเร็ว
