แพน บุนนาค ดาราดังเมาแล้วขับชนรถคู่กรณีไม่ยินยอมให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์อ้างพ่อเป็นพลเอกขู่ย้ายตำรวจทั้งโรงพัก สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องคุมตัวใส่กุญแจมือไปโรงพักวัดแอลกอฮอล์สูงถึง 196 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 8 ก.ย.63 ร.ต.อ.นิพนธ์ พลสวัสดิ์ รองสว.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันบริเวณใต้ทางด่วนวัดบัวขวัญ ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ มีการโต้เถียงกันในที่เกิดเหตุ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถคู่กรณีเป็นรถเก๋ง มาสด้า 3 สีดำ ทะเบียน 6 กบ- 1942 กรุงเทพสภาพด้านหน้าเสียหายเล็กน้อย ส่วนรถคู่กรณีอีกฝ่ายเป็นรถปิคอัพ ยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีขาว แบบแค๊ป ทะเบียน1กฆ-3451 กรุงเทพ กันชนด้านหน้ามีรอยถูกชนจนแผ่นป้ายทะเบียนหลุด ตัวรถเสียหายเล็กน้อยเช่นกัน
ข่าวน่าสนใจ:
สอบถามนายจตุพร พุทธโกสัย อายุ 31 ปี พ่อค้าขายของ ขับรถปิคอัพ เปิดเผยว่า ตนขับรถจะถึงร้านกำลังจะเลี้ยวคู่กรณีขับรถมาด้วยความเร็ว ลักษณะเมามีทีท่าฮึดฮัดฟัดเหวี่ยงตลอดไม่ยอมลงจากรถ ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนคนขับรถเก๋งมาสด้า 3 ทราบชื่อต่อมาคือนายสุรเกียรติ บุนนาค อายุ 27 ปี นั่งอยู่แต่ในรถไม่ยอมลงมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและคู่กรณีที่ถูกนายสุรเกียรติพุ่งชน เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมขอเป่าแอลกอฮอลล์ ก็ไม่ยินยอม พยายามต่อสายโทรศัพท์หาคนโน้นคนนี้ จนสุดท้ายส่งสายให้ ร.ต.ท.นิพนธ์ โดยชายในสายอ้างว่าเป็นบิดาและเป็นทหารยศพลเอก หากไม่ช่วยเหลือจะย้ายตำรวจโรงพักนี้ทั้งโรงพัก
ต่อมามารดาของนายสุรเกียรติ ขับรถเก๋งฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีบรอนซ์-เงิน มาที่เกิดเหตุและขอร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป่าแอลกอฮอลล์ลูกชาย มีการโต้เถียงกันนานกว่า 4 ชั่วโมง โดย 2 แม่ลูกก็ไม่ยินยอมให้เป่าและปฎิเสธที่จะไปโรงพัก ตัวนายสุรเกียรติ เองเข้าไปนั่งในรถมารดาไม่ยอมเจรจาใดๆทั้งสิ้น พร้อมขอร้องไม่ให้นักข่าวถ่ายรูป
เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าเวลาผ่านไปนานมากแล้วจึงใช้กำลังดึงตัวออกมาจากรถจะนำขึ้นรถยนต์สายตรวจแต่นายสุรเกียรติกับมารดาพยายามขัดขืนจนทั้งสองฝ่ายยื้อยุดฉุดกระชากกันจนนายสุรเกียรติล้มลงหัวเข่าแตกเลือดไหลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจใส่กุญแจมือทันทีก่อนนำขึ้นรถสายตรวจพาตัวมาที่โรงพักเป่าวัดแอลกอฮอลล์ พบว่ามีปริมาณสูงถึง 196 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก่อนแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: