ผู้ป่วยจิตเวชกระโดดหนีลงแช่น้ำครำนานกว่า 2 ชั่วโมง หลังจากหนีออกจากศูนย์ดูแลและพยายามปีนขึ้นบ้านชาวบ้าน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 พ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากมีผู้แจ้งว่ามีชายพยายามปีนขึ้นบ้านของชาวบ้านและมีผู้พบเห็นทำให้ตัวผู้ก่อเหตุนั้นตกใจกลัวกระโดดหนีลงไปในคลองน้ำครำ และนั่งแช่ตัวนานกว่า 2 ช.ม. เหตุเกิดท้ายซอยรัตนาธิเบศร์ 22 แยก 6 ด้านถนนรัตนาธิเบศร์
ที่เกิดเหตุพบชายอายุประมาณ 40 ปีนั่งแช่ตัวอยู่ในน้ำซึ่งเป็นคลองน้ำครำโดยชายดังกล่าวไม่พูดจานั่งเงียบ โดยบางครั้งลักษณะพูดคุยคนเดียวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยพยายามเกลี้ยกล่อมให้ขึ้นมาจากน้ำแต่ก็ไม่มีทีท่าจะยินยอมนานกว่า 2 ช.ม.กระทั่งชายคนดังกล่าวให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อผู้เป็นบิดามาทางเจ้าหน้าที่จึงได้โทรไปยังหมายเลขดังกล่าวซึ่งทางบิดารับทราบเหตุการณ์โดยให้ข้อมูลว่าบุตรชายรักษาตัวป่วยอาการจิตเวช ที่โรงพยาบาลศรีธัญญา โดยจะประสานไปยังโรงพยาบาลให้ทราบเพื่อไปรับตัว เนื่องจากตนเองนั้นอยู่ไกล
โดยเวลาผ่านไปกว่า 2 ช.ม.ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดูแลของโรงพยาบาลศรีธัญญามาถึงและพยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้ขึ้นมาจากน้ำ จู่ๆ ชายคนดังกล่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตัวเขานั้นอยู่ในน้ำถึง 5 ช.ม.หรือยัง ซึ่งทางตำรวจตอบกลับไปว่า นั่งนาน 6-7 ช.ม.ทำให้ชายคนดังกล่าวลุกขึ้นและปีนขึ้นมาด้านบนด้วยตนเอง แต่ก็มีอาการหวาดกลัวพูดถึงเรื่องด้านกฎหมาย ตลอดเวลาก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลศรีธัญญาจะรับตัวกลับไป
ทางด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์ดูแลของโรงพยาบาลศรีธัญญากล่าวว่าชายคนนี้เป็นผู้ป่วยจิตเวชรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์มานานกว่า 2 ปีแล้วโดยอาการจะมีลักษณะหูแว่ว เห็นภาพหลอน หลงผิด หวาดระแวง กลัวคนจะมาทำร้าย หรือคิดไปว่าพ่อ-แม่ เป็นตัวปลอม หรือที่เห็นตามที่เป็นข่าว ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ซึ่งจริงๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจ และตอนนี้เราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าความคิดตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่ และการหลบหนีออกมาจากศูนย์ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว
