คนร้ายทำทีซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 8 บาทพร้อมขอลองสวมคอก่อนคว้าวิ่งหนีเข้าไปในโรงเรียนแต่จนมุมเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะที่คนร้ายอ้างว่าก่อเหตุเพราะก่อนหน้านำทองภรรยาไปจำนำ โดนเมียด่าว่าจึงตัดสินใจหวังมาก่อเหตุขโมยทองร้านนี้เพื่อนำไปขายและนำเงินไปซื้อสร้อยใหม่ใช้คืนภรรยา
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ธ.ค.63 ร.ต.อ.จรยุทธ บุญทอง รองสว.(สอบสวน)สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับเเจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น และสร้อยทอง หนัก 5 บาท 1 เส้น เราคา 220,000 บาท ภายในร้านทองห้างมังกรเยาวราช ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาปากเกร็ด ซ.วัดสนามเหนือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ พ.ต.ท.นภธร วาชัยยุง รองผกก.ป. พร้อมด้วย ชุดสืบสวนปราบปราม รีบไปตรวจสอบ
ภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 3 ธ.ค 63 เวลา 13.00 น. มีคนร้ายเป็นชายวัยกลางคนใสหน้ากากอนามัย สวมเสื้อยึดสีดำ ทับด้วยแจ๊กเก็ตแขนยาวสีเเดง ใส่กางเกงยีนส์ ขา 3 ส่วน รองเท้าผ้าใบสีดำ ทำท่าทีมาขอดูสร้อยคอทองคำและลองสวมใส่ ก่อนจะวิ่งและหลบหนีออกไปทางข้างหน้าโลตัสที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 1 ของห้างดังกล่าว โดยหนีเข้าไปในโรงเรียนปากเกร็ด โดยมี น.ส.มุนิน ศรีนกน้อย อายุ 28 ปี หัวหน้าพนักงานขายร้านทอง กับ น.ส.อารีรัตน์ กลิ่นจันทร์พนักงานขาย วิ่งตาม ขณะนั้นเอง ร.ต.ต.นพดล ปัญญาครอง รองสว.จราจร สภ.ปากเกร็ด ปฎิบัติหน้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียน ได้ยินเสียงร้องให้ช่วย จึงวิ่งไล่กวดคนร้ายไปจนสามารถจับกุมตัวได้ ทราบชื่อคือนายอรรถกร ศรีเวียง อายุ 37 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ทำทีเป็นจะเป็นลม หายใจไม่ออก ไม่พูดไม่จา จึงควบคุมตัวไว้
น.ส รัชนี ทองโสม อายุ 20 ปี พนักงานร้านทอง ที่นำทองให้คนร้ายดู กล่าวว่ารอบแรกคนร้ายเข้ามาถามราคาทองน้ำหนัก 10 บาท และขอตัวไปธนาคารเพราะอ้างว่าจำนวนเงินไม่พอ ซึ่งหลังจากมารอบที่ 2 คนร้ายมาขอดูสร้อยทองหนัก 3 บาท และ 5 บาท และยังได้มีการต่อรองราคากัน ก่อนที่ค้นร้ายขอตัวไปคุยโทรศัพท์ สักพักคนร้ายกลับมาที่ร้านรอบที่ 3 ซึ่งตอนนั้นไม่มีลูกค้าหน้าร้านเลย และขอให้ตนลดราคาให้อีก หลังจากนั้นทางคนร้ายได้บอกกับตนว่า ทำไมต้องมามองกันด้วยสายตาแบบนี้ คิดว่าจะเป็นขโมยหรือไง ซึ่งตนพยายามตอบบ่ายเบี่ยงไป และคนร้ายขอลองสวมสร้อย 2 เส้น พร้อมกันโดยจังหวะที่ถอดออกนั้นคนร้ายทำทีรวบทองกำไว้ในมือก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไปทันที โดยมีพี่ที่เป็นพนักงานที่ร้านวิ่งตามออกไป เพราะคนร้ายหนีเข้าไปทางโรงเรียนปากเกร็ด ก่อนจะมีพี่ตำรวจจราจรตะครุบจับตัวได้ และได้ของกลางมาคืนจนครบ ตนจึงอยากฝากขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้ หลังจากนี้ทางร้านจะระมัดระวังตัวมากขึ้นเเละจะไม่ประมาท
ทางด้าน พ.ต.อ.พงศ์จักร ผกก.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่าสาเหตุที่คนร้ายลงมือก่อเหตุเพราะได้เอาสร้อยคอหนัก 1 บาทสองเส้นของภรรยาไปจำนำไว้ จึงถูกภรรยาด่าว่าและไม่สามารถไถ่คืนมาได้ เลยคิดสั้นมาวิ่งราวสร้อยที่ร้านทองแห่งนี้เพื่อจะนำทองไปขายและซื้อทองใช้ภรรยา แต่ไปไม่รอดโดนจับกุมตัวได้ สำหรับร้านทองแห่งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่งถูกคนร้ายก่อเหตวิ่งราวทรัพย์เป็นแหวนทองหนัก 1 สลึงไป โดยคนร้ายรายนั้นก่อเหตุเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ และถูกจับตัวได้ จนกระทั่งวันนี้มาโดนก่อเหตุวิ่งราวทองอีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์ให้พนักงานระมัดระวังและสังเกตุลูกค้าที่เข้ามาซื้อทองให้ดี ในส่วนของตำรวจจะเพิ่มกำลังสายตรวจหมั่นตรวจตราให้เข้มขึ้น เพื่อป้องกันเหตุร้าย เนื่องจากใกล้เทศกาลคริสมาส และปีใหม่ อีกด้วย
ต่อมาเวลา 15.30. น.ได้นำตัวนายอรรถกร คนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำไปทำแผนจากจุดแรกร้านมังกรทองเยาวราช และวิ่งหลบหนีเข้าไปในโรงเรียนปากเกร็ด ระยะทางจากที่เกิดเหตุราว 400 เมตร ก่อนหมดแรงแทบเป็นลม แล้วจนมุมถูก ร.ต.ต.นพดล ปัญญาครอง รองสว.(จราจร) สภ.ปากเกร็ด ที่ปฎิบัติหน้าที่ใกล้จุดเกิดเหตุสิ่งไล่ตามไปติดๆ แล้วตะครุบตัวไว้ได้ เล่นเอานายอรรถกร แทบเป็นลมเพราะหมดแรง การทำแผนประกอมคำรับสารภาพใช้เวลาแค่ 30 นาที จึงควบคุมตัวผู้ต้องหากลับโรงพัก
ขณะที่ ร.ต.ต.นพดล ปัญญาครอง รองสว.จราจร สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า ปกติตนดูจราจรอยู่งตรงข้ามกับทางห้างโลตัส ช่วงเกิดเหตุ มีคนตะโกนว่ามีคนร้ายขโมยของ ตนจึงวิ่งข้ามฝั่งไปเพื่อไล่จับ แต่คนร้ายหนีเข้าไปในโรงเรียนปากเกร็ด แต่เป็นทางตันทำให้ออกไปไหนไม่ได้ ตอนนั้นได้มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยกันจับ ร.ต.ต.นพดล ให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ไม่เหนื่อยเท่าคนร้าย เป็นเพราะตนเองนั้นยามว่างหลังออกจากเวรจะไปออกกำลังกายอยู่เป็นประจำทำให้สามารถวิ่งจับคนร้ายไว้ได้ทัน
