พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.แถลงข่าวจับกุมนางแบบชื่อดังพร้อมของกลางอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ขณะเดียวกันตำรวจเตรียมเรียกพริตตี้ เน็ตไอดอลกว่า 50 คนที่โฆษณาขายบุหรี่ไฟฟ้าสอบสวนเพิ่มเติม
วันนี้ 19 ธ.ค63 ที่สำนักงานกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข, ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งมีนางแบบชื่อดัง ร่วมกันกระทำความผิดลักลอบจำหน่าย และผลิตน้ำยาพร้อมอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย โดยตำรวจเตรียมเรียกพริตตี้ เน็ตไอดอลกว่า 50 คน ที่โฆษณาขายบุหรี่ไฟฟ้าสอบสวนเพิ่มเติมหลัง หลังตำรวจสอบสวนกลางบุกจับบุหรีไฟฟ้า พร้อมเครื่องผลิตน้ำยา จากโกดังขนาดใหญ่ย่านร่มเกล้า ยึดของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้าแบบขวด 50,000 ขวด จำนวน 480 กล่อง /น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้าแบบแกลลอน 40 แกลลอน /น้ำยาเติมบุหรี่แบบพอต 10,000 ชิ้น /ตัวบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1,500 ชิ้น /และ อุปกรณ์บุหรีไฟฟ้า จำนวน 80 กล่อง เป็นของกลางที่ตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลางสามารถตรวจยึดได้ จากการนำหมายศาลเข้าตรวจค้นในโกดังย่านร่มเกล้า เขตสะพานสูง พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ดำเนินคดีในฐานร่วมกันลักลอบจำหน่ายและผลิตน้ำยาพร้อมอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย
พลตำรวจโทต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนพบมีการประกาศขายบุหรี่ไฟฟ้าหลายยี่ห้อให้กับประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ มียอดสั่งซื้อจำนวนมาก และยังพบว่ามีนางแบบพริตตีเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาอีกด้วย จึงทำการล่อซื้อขยายผลจับกุมดังกล่าว ส่วนการสอบสวนนายนรา ยิ้วศรีคล อายุ 46 ปี 1 ใน 4 ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าเป็นเจ้าของโรงงาน มีการสั่งนำเข้าสินค้าต่างๆ มาจากประเทศจีน มาไว้ที่โกดังย่านร่มเกล้าซึ่งทำมานานกว่า 3 ปีแล้ว สินค้าที่จำหน่ายโดยเฉพาะน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีการผสมขึ้นมาเอง ขายผ่านช่องทางออนไลน์ช่องทางเดียว ส่วนกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็น เด็ก เยาวชน และ นักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กง่ายต่อการพกพา ทั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ส่วนผสมของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อพิสูจน์ความอันตราย และเตรียมเรียกนางแบบ , พริตตี้ , เน็ตไอดอลประมาณ 50 คน มาสอบสวนขยายผล ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. หากพบเข้าข่ายกระทำผิดก็จะดำเนินคดีทั้งหมดต่อไป
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ตำรวจดำเนินคดีฐานร่วมกันขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขายฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 600,000 บาท และอยู่ระหว่างการพิสูจน์ความผิดอันอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
