เจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีถึงกับ งง พบโชเฟอร์แท็กซี่มีอาการหลงลืมจำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเอง ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่แนะนำญาติพาตัวลุงโชเฟอร์แท็กซี่ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหาสาเหตุ
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 10 ม.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบคนขับแท็กซี่มีอาการหลงลืมจำความไม่ได้มาอยู่ที่ปั๊มก๊าซ NGV ห้าแยกปากเกร็ด ต.ปากเกร็ดอ.ปากเกร็ด จึงรุดเข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบภายในปั๊มพบพลเมืองดีกำลังพยายามพูดคุยกับนายวิชอบ สุรินทร์ อายุ 52 ปีโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฎ 4651 กทม ที่จอดอยู่ โดยเจ้าหน้าที่พยายามพูดคุยสอบถามแต่นายวิชอบจำความอะไรไม่ได้เลยแม้กระทั่งชื่อตัวเอง โดยทางเพื่อนโชเฟอร์แท็กซี่และพลเมืองดีได้นำโทรศัพท์ที่ติดตัวนายวิชอบมาโทรหาบุคคลที่รู้จักกระทั่งสามารถติดต่อเจ้าของอู่รถรวมถึงหลานชายของนายวิชอบได้ อีกทั่งพยายามมีการให้นายวิชอบ พูดคุยผ่านระบบวีดีโอคอล กับบุตรสาวของนายวิชอบ ที่อยูใน จ.สระแก้ว ผลปรากฏว่านายวิชอบ ก็จำบุตรสาวตัวเองไม่ได้ รวมถึงบุคคลอื่นๆที่มานั้นนายวิชอบ ก็จำใครไม่ได้เช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำให้ญาตินำตัวนายวิชอบ ไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าเกิดจากอาการเครียดหรือมีโรคอื่นหรือเป็นการถูกก่อเหตุที่เรียกว่าป้ายยา ที่เคยเป็นข่าวหรือไม่ ถ้าทางญาติสงสัยว่านายวิชอบ จะถูกก่อเหตุป้ายยา ก็ให้ไปแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุต่อไป ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบที่ตัวและในรถของนายวิชอบ ก็ไม่พบกระเป๋าสตางค์พบเพียงเงินสดประมาณ 160 บาทในกระเป๋าเสื้อของนายวิชอบ เท่านั้น
ขณะเดียวกันจากการสอบถามคนขับแท็กซี่ที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่าในขณะที่จอดรถอยู่ในปั๊มและจอดรถใกล้กับนายวิชอบ ได้ยินเสียงนายวิชอบ พูดคุยโทรศัพท์กับปลายสายเพียงว่าไม่รู้อยู่ตรงไหน ก่อนที่นายวิชอบ หันมาพบเห็นตนและส่งโทรศัพท์ให้พูดคุยกับคนปลายสายตนเองจึงบอกตำแหน่งที่อยู่ของปั๊มโดยหญิงคนดังกล่าวยังบอกอีกว่าให้แจ้งกับนายวิชอบ ว่าให้คอยอยู่ที่ปั๊ม ก่อนจะวางสายไป หลังจากนั้นไม่นานมารู้ภายหลังว่าปลายสายที่พูดคุยคือทางเจ้าของอู่รถแท็กซี่และเดินทางมาหานายวิชอบ ที่ปั๊มแห่งนี้โดยทางญาติและเจ้าของอู่แท็กซี่ซึ่งรู้จักคุ้นเคยร่วมถึงพ่อค้าขายบะหมี่ในปั๊ม ยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านายวิชอบไม่เคยมีอาการลักษณะมีก่อน ซึ่งทุกคนเกรงว่านายวิชอบ จะถูกป้ายยา จึงทำให้มีอาการหลงลืมจนความอะไรไม่ได้เลย
