รอง ผบช.ภาค 1 ลงพื้นที่วัดย่านปากเกร็ดเร่งติดตามตัวโจรลักเงินตู้บริจาค ขณะที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วคาดเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ก่อเหตุวัดโชติการามย่านถนนนครอินทร์
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 28 เมษายน 2564 พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบช.ภาค1 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัยรอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมชุดสืบสวน เดินทางเข้าพบพระครูใบฎีกาอำนาจ ปิยธัมโม เจ้าอาวาสวัดท่าเกวียนต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามเรื่องที่มีคนร้ายขโมยเงินบริจาคภายในโบสถ์หลวงพ่อดำ พร้อมแนะแนวทางป้องกัน
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวัดจับภาพคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 – 35 ปี ขับมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ-แดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าโบสถ์ ก่อนจะเดินมาไหว้พระที่อยู่ด้านหน้าโบสถ์ จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้าไปในโบสถ์ แล้วยกมือไหว้ หลวงพ่อดำที่อยู่ภายในโบสถ์ ก่อนจะเดินไปที่ ตู้บริจาคแล้วใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมางัดแงะที่กุญแจล๊อคตู้บริจาค ก่อนจะหยิบเงินที่อยู่ในตู้แล้วรีบขับรถ จยย.หลบหนีไป
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า วันนี้ที่เดินทางมาที่วัดท่าเกวียนก็เพื่อมาตรวจสอบและหาเบาะแสของคนร้ายที่เข้ามาลักทรัพย์เงินในตู้บริจาคของวัด ซึ่งคดีนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะว่าได้เกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีเมื่อช่วงเดือนเมษายนหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ อ.เมืองนนทบุรี และล่าสุดที่ อ.ปากเกร็ด จึงได้กำชับให้ทางตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่ เร่งรัดติดตามจับกุมคนก่อเหตุให้ได้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของวัด พบพฤติกรรมของคนร้ายที่มาก่อเหตุน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่ลักเงินในตู้บริจาคภายในวัดโชติการาม วัดทางหลวง วัดนครอินทร์เขต อ.เมืองนนทบุรี และล่าสุดที่วัดท่าเกวียน อ.ปากเกร็ด โดยทุกครั้งที่คนร้ายก่อนจะลงมือจะต้องมีการกราบหรือไหว้พระที่อยู่ในโบสถทุกครั้ง จึงอยากฝากให้วัดแต่ละวัดหาวิธีเฝ้าระวังป้องกันโดยมีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม โดยให้ติดทุกจุดที่สามารถมองเห็นคนร้ายได้ชัดเจน ส่วนการติดตามจับตัวคนที่ก่อเหตุนั้นคาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ เพราะตอนนี้ได้ข้อมูลและเบาะแสของคนร้ายแล้ว ขอเวลาตำรวจทำงานหน่อย
