X

นนทบุรี ตำรวจรวบทอมแสบหลอกร่วมลงทุนล็อตเตอรี่ สูญกว่า 5 ล้านบาท

ตำรวจรวบทอมแสบหลอกร่วมลงทุนล็อตเตอรี่ผู้เสียหายสูญกว่า 5 ล้านบาท

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 8 มิ.ย.64 พ.ต.อ.เมษานนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพรชบุรี ร่วมกันจับกุม น.ส.เบญญาภา ว่องไว อายุ 49 ปีชาว  จ.เพรชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรีที่ 209/64 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ นางชนิดา ตาวงษ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 ต.ท่าพระ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงจังหวัดนนทบุรีที่ 210/64 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ สามารถจับกุมตัวได้ที่ปากทางเข้าวัดนาค ถนนโพธิ์การ้อง ต.ท่าราบ อ.เมืองเพรชบุรี จ.เพรชบุรี

การจับกุมสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี รับแจ้งความจากนางเฉลียว นกพา อายุ 57 ปีและน.ส.ณภัสสร นกพา อายุ 31 ปี สองแม่ลูก ว่าได้ถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลอกให้ร่วมลงทุนซื้อขายล็อตเตอรี่ โดยอ้างว่ามีโควต้าล็อตเตอรี่จำนวน 1,000 เล่ม จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และมีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สั่งจองจำนวนมาก แต่ต้องหาเงินทุนมาซื้อล็อตเตอรี่ จะได้ส่วนแบ่งกำไรจากการขายทุกงวดหลังการออกรางวัล ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนไปกว่า 5 ล้านบาท

นางเฉลียว กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือน ก.ค.ปี 62 น้องสาวตนได้มาชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อล็อตเตอรี่กับผู้ต้องหาโดยน้องสาวได้นำเงินจำนวน 1,700,000 บาทไปลงทุนกับผู้ต้องหาและได้เงินแบ่งกำไร 1 แสนบาท น้องสาวเห็นว่าได้เงินจริงจึงมาชักชวนให้ตนนำเงินมาร่วมลงทุนด้วย ตอนแรกก็ไม่เชื่อแต่พอเห็นผู้ต้องหานำเงินส่วนแบ่งมาให้น้องสาวจึงตัดสินใจนำเงินเก็บที่ไว้มาร่วมลงทุนครั้งแรก 750,000 พอถึงกำหนดผู้ต้องหาทั้งสองคนได้นำส่วนแบ่งมาให้ 85,000 บาท ต่อมาผู้ต้องหาได้บอกว่ามีโคต้าอีก ตนกับลูกสาวได้ไปกู้เงิน นำรถยนต์ไปขายรวบร่วมได้ 1,250,000บาท รวมเป็น 2,000,000 บาท ส่วนลูกสาวเอารถและทรัพย์สินไปขายนำเงินมาลงทุนอีก 1,800,000 บาท แต่หลังจากผ่านไป 3 เดือนผู้ต้องหาเริ่มจ่ายผลกำไรไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อสอบถามก็อ้างว่ามีปัญหาภายในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้รอ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะเขียนเช็คสั่งจ่ายเป็นเงินที่พวกตนลงทุนไปพร้อมดอกเบี้ยคืนให้ แต่พอนำเช็คไปขึ้นเงินทางธนาคารได้ปฎิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี จึงรู้ว่าถูกหลอก ก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดี

ด้านน.ส.ณภัสสร กล่าวว่าเงินที่ผู้ต้องหาหลอกเอาไปนั้นเป็นเงินที่แม่เก็บไว้ใช้ตอนแก่ ส่วนตนก็นำเงินที่เก็บจากการทำงานและนำรถยนต์ที่ไปขาย และยังไปกู้เงินมาลงทุนอีกด้วย ทุกวันนี้ต้องทำงานหาเงินมาใช้หนี้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน