หญิงวัย 49 ปีดับปริศนาคาห้องย่านเมืองนนท์ ขณะที่คนรู้จักเผยก่อนหน้าผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยหนักก่อนจะมาทราบว่าเสียชีวิต
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 6 ก.ย.64 ร.ต.อ.สุวัฒน์ เสน่ห์หา สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งมีเหตุเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ภายในอพาร์ทเม้นท์ ซอยติวานนท์ 3 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งแพทย์เวรสถบันนิติวิทยาศาสตร์
ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเม้นท์ สูง 5 ชั้นภายในห้องพักชั้น 5 พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิงนั่งคุดคู้ชันเข่าหลังพิงประตูห้องไม่สวมเสื้อผ้า ทราบชื่อน.ส.วิไลพร ขอพลกลาง อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันดันประตูเพื่อนำร่างออกมาเพื่อให้แพทย์ชันสูตรเมื่อสามารถเปิดประตูห้องพบว่าภายในห้องพักเต็มไปด้วยกองถุงใส่ของ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนทราบว่า น.ส.วิไลพร พักอยู่เพียงคนเดียว เมื่อวันที่ 4 ก.ย.64 มีอาการป่วยไม่สบาย มีไข้ท้องเสีย จึงเดินทางไปหาหมอที่ ร.พ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น เพื่อตรวจอาการไข้ แต่ไม่ได้ตรวจโควิด หมอ ได้ให้ยาพารากลับมากิน ต่อมาวันที่ 6 ก.ย.64 เวลาประมาณ 14.00 น.ทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ได้นำอาหารไปให้และเคาะประตูห้อง แต่น.ส.วิไลพร ไม่ได้เปิดประตูออกมา จนช่วงค่ำทางเจ้าของได้ขึ้นไปดูพบว่าอาหารยังแขวนอยู่หน้าห้อง จึงนำกุญแจสำรองเปิดประตูพบว่า น.ส.วิไลพร นอนเสียชีวิตขวางประตูด้านใน ก่อนจะรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
นาย สิรภพ ทองอุไร อายุ 25 ปี เดินทางมาที่เกิดเหตุ ให้ปากคำว่า ตนรู้จักและนับถือป้าวิไลพร เพราะป้าวิไลพรสนิทกับป้าของตนไปมาหาสู่กับที่บ้านมาหลาย 10 ปี เมื่อวันที่ 4 ก.ย.64 ป้าวิไลพร ได้โทรศัพท์มาหาป้าปุกของตน ว่าไม่สบาย มีไข้ และท้องเสีย ตนฟังแล้วอาการเหมือนตอนที่ตนเคยป่วยติดเชื้อโควิดมาก่อน ได้ให้ป้าวิไลพร เอาที่ตรวจATK ตรวจเบื้องต้นก่อนผลตรวจเป็นลบ แต่เพื่อความมั่นใจ จึงถามป้าวิไลพร ว่ามีสิทธิ์รักษาที่ไหน ซึ่งป้าวิไลพร บอกมีประกันสังคม ร.พ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น จึงได้บอกให้ไปตรวจหาเชื้อโควิด แต่ป้า วิไลพร บอกมีเงินแค่ 300 บาทเพราะเนื่องจากร้านขายของในห้างปิดไม่ได้ทำงาน ตนบอกว่าไม่เป็นไรจะจ่ายค่าแท็กซี่ให้ หลังจากนั้นแท็กซี่ได้ไปรับป้าวิไลพร ไปส่งที่ ร.พ.
นายสิรภพ กล่าวว่า ตนคิดว่าป้าวิไลพร ไปตรวจหาเชื้อโควิด และกลับมารอฟังผลที่ห้องพัก แต่มาทราบว่าป้าวิไลพร ไม่ได้ตรวจเพียงแต่ไปหาหมอเพราะมีไข้ โดยวันที่ 5 ก.ย.64 ป้าวิไลพร ได้ส่งคลิปเสียงมาให้ป้าของตน ว่า ขอรอดูอาการ 3-4 วัน หากลุกไม่เวียนหัวไม่เหนื่อยง่ายก็จะไปโรงพยาบาล กลัวว่าหากมีเจ้าหน้าที่แต่งชุดมาตรวจที่ห้องกลัวคนที่อพาร์ทเม้นท์จะแตกตื่น ซึ่งคลิปเสียงที่ส่งมาให้มีอาการไอด้วย จนกระทั่งช่วงประมาณ 22.00 น.วันที่ 5 ก.ย.64 ป้าปุกได้โทรศัพท์หาป้าวิไลพร เพื่อสอบถามอาการแต่ถูกตัดสายทิ้ง จนวันนี้มาทราบว่าป้าวิไลพร เสียชีวิตแล้ว
หลังแพทย์ได้ชันสูตรเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชม.ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเจาะเลือดตรวจหาเชื้อโควิด โดยจะไม่ผ่าชันสูตร หากติดเชื้อโควิด และจะให้ญาติรับศพไปฌาปนกิจทันที
